สำนักข่าวชายขอบ
Transborder News

Search

เขื่อนดอนสะโฮงรุดหน้า 60 % ชาวลาวบ่นหาปลาได้ยากขึ้น เผยโลมาอิระวดีลดลงจนน่าใจหาย

เขื่อนดอนสะโฮงที่กั้นลำน้ำโขงช่วงฮูสะโฮงมีความคืบหน้าไปแล้วร้อยละ 60

วันที่ 24 เมษายน 2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการลงพื้นที่เมืองโขง แขวงจำปาสัก สปป.ลาว พบว่าโครงการก่อสร้างเขื่อนดอนสะโฮงซึ่งเป็นเขื่อนบนแม่น้ำโขงแห่งที่ 2 ได้มีความคืบหน้าไปแล้วกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ โดยตัวเขื่อนได้ปิดกั้นลำน้ำฮูสะโฮง และมีการระเบิดช่องน้ำฮูสะโฮงให้กว้างขึ้นเพื่อก่อสร้างโรงไฟฟ้าขนาด 260 เมกะวัตต์ โดยจะมีหัวปั่นไฟประมาณ 4 เครื่อง คาดว่าจะแล้วเสร็จในอีก 2 ปีข้างหน้า

ทั้งนี้โครงการเขื่อนดอนสะโฮง เป็นการลงทุนของบริษัทเมกะเฟริสก์ คอเปอเรชั่น (Mega First Corporation Berhad (MFCB) สัญชาติมาเลเซีย เป็นผู้พัฒนาโครงการโดยมีเงินลงทุนประมาณ 500 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยโครงการนี้รัฐบาลลาวได้อนุญาตให้มีการก่อสร้างเริ่มต้นตั้งแต่ พ.ศ.2558 เป็นต้นมา ซึ่งไฟฟ้าจากเขื่อนดังกล่าวจะส่งขายไปยังกัมพูชาและใช้ภายในประเทศ ขณะเดียวกันในเขตเมืองโขง ยังมีแผนการพัฒนาเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษเมืองโขง โดยมีกลุ่มทุนจีนที่เข้ามาขอสัมปทานและกำลังอยู่ในระหว่างกระบวนการศึกษาผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม ส่วนกระบวนการอนุมัติโครงการได้ผ่านระดับแขวงแล้ว และกำลังรอเสนอกระบวนการตัดสินใจของระดับสมัชชาแห่งชาติต่อไป

ที่ผ่านมาโครงการสร้างเขื่อนดอนสะโฮงถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเนื่องจากปิดกั้นเส้นทางอพยพที่สำคัญของปลาในแม่น้ำโขง นอกจากนี้รัฐบาลลาวยังออกข้อห้ามมิให้ชาวบ้านหาปลาโดยใช้หลี่ซึ่งเป็นเครื่องมือหาปลาขนาดใหญ่ที่เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นภายหลังจากเริ่มมีการสร้างโครงการสร้างเขื่อนฮูสะโฮงเริ่มต้นขึ้น ทำให้ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาชาวบ้านจับปลาได้ลดลงมาก และเศรษฐกิจเมืองโขงที่เคยคึกคักอย่างมากในช่วงน้ำหลากซึ่งเป็นฤดูจับปลาต้องพลอยซบเซาลงไป

เวินใหม่แหล่งที่อยู่ของปลาข่าในแม่น้ำโขงบริเวณชายแดนลาว-เขมร ซึ่งขณะนี้ปลาข่ากำลังใกล้สูญพันธุ์เต็มที

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามชาวบ้านในพื้นที่ดอนสะดำและดอนคอน โดยชาวบ้านต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ปัจจุบันปลาหายากมากขึ้น และปลามีราคาสูงมากขึ้นกว่าเดิม และยังีปรากฏการณ์การขึ้น-ลงของน้ำโขงที่ไม่ปกติทำให้หาปลายากขึ้น และจับได้น้อยลง ที่น่าสนใจคือโลมาอิระวดี หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าปลาข่าซึ่งมีแหล่งอาศัยสำคัญในบริเวณรอยต่อในแม่น้ำโขงระหว่างลาวและกัมพูชาและเป็นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว ปรากฏว่าปัจจุบันเหลือปลาข่าอยู่ประมาณ 5 ตัว ทั้งๆที่ในอดีตเคยมีอยู่หลายสิบตัว โดยจำนวน 2 ตัว พบบริเวณเวินลึก เขตบ้านหางคอนในสปป.ลาวและบ้านเวินยาง ในเขตกัมพูชา ส่วนอีก 3 ตัว อพยพขึ้นไปทางเหนือน้ำห่างจากจุดเดิมประมาณ 1- 2 กิโลเมตร ล่าสุดเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ชาวบ้านได้พบลูกโลมาอิระวดี ตาย 1 ตัว น้ำหนัก 9 กิโลกรัม อายุประมาณ 2 เดือน ซึ่งคาดการณ์ว่าอาจจะตายเนื่องจากการใช้เครื่องมือที่ผิดกฎหมาย ขณะนี้ชาวบ้านฝั่งลาวได้มีการปรึกษาหารือและมีการตรวจตระเวนดูการหาปลาของชาวบ้านในพื้นที่เพื่อป้องกันไม่ให้มีการใช้เครื่องมือที่ผิดกฎหมายมากขึ้น

นางสอน จำปาดอก ชาวบ้านสำโรง อ.โพธิ์ไทร จ.อุบลราชธานี ที่ประกอบอาชีพหาปลาซึ่งได้เดินทางไปเยี่ยมเยือนพี่น้องฝั่งลาว กล่าวว่า เป็นครั้งแรกที่ได้มาเห็นเขื่อนว่าหน้าตามันเป็นอย่างไร และที่ผ่านมาสงสัยว่าทำไมปลาน้ำโขงถึงไม่อพยพขึ้นไปหาพวกเราที่อยู่ตอนเหนือของเมืองโขง แต่ตอนนี้ได้คำตอบแล้ว
/////////////////////

On Key

Related Posts