เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2561 นายธีรเชษฐ โสทอง รองประธานเครือข่ายอนุรักษ์ลุ่มน้ำชมภู ต.ชมพู อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก เปิดเผยถึงความคืบหน้าจากเมื่อวานนี้ที่ตัวแทนชาวบ้านได้เดินทางไปทวงถามความคืบหน้าคดีการสังหารนายพิทักษ์ โตนวุธ ที่ปรึกษาเครือข่ายอนุรักษ์ลุ่มน้ำชมภู ซึ่งถูกยิงจนเสียชีวิตเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2544 โดยผู้ตายเป็นแกนนำร่วมกับชาวบ้านในการคัดค้านสัมปทานโรงโม่หิน รวมทั้งได้ยื่นหนังสือร้องเรียนปัญหาของชาวบ้าน โดยมีนายไพบูลย์ ณบุตรจอม รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมารับเรื่องร้องเรียน
นายธีรเชษฐ กล่าวว่า นายพิทักษ์ โตนวุธ ถือเป็นวีรบุรุษของชาวบ้านชมภู ที่ได้ร่วมกับชาวบ้านในการปกป้องทรัพยากรธรรมชาติจนทำให้ถูกลอบสังหาร แต่จนถึงปัจจุบันผ่านไป 17 ปีแล้ว ตำรวจยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีได้ ในคดีนี้เหลืออายุความอีกเพียง 3 ปีเท่านั้น ซึ่งชาวบ้านได้มาติดตามความคืบหน้าคดีทุกปี แต่ก็ไม่เคยมีความคืบหน้าใด ๆ จึงต้องการให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกช่วยเร่งรัดการติดตามคดีกับทางตำรวจ และต้องการให้ทหารได้เข้ามามีส่วนร่วมในการสืบสวนคดี เพื่อหวังให้มีการจับกุมคนร้ายได้โดยเร็ว
นายธีเชษฐ กล่าวต่อว่า เครือข่ายอนุรักษ์ลุ่มน้ำชมภู ได้มีการยื่นข้อเรียกร้อง 5 ข้อ คือ 1.ทหารจากกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดพิษณุโลก มารับผิดชอบการดำเนินการคดีการลอบสังหารนายพิทักษ์ โตนวุธ 2.ให้ยกเลิกโครงการสร้างเขื่อนคลองชมพูโดยไม่มีเงื่อนไข 3.ส่งเสริมฟื้นฟูคลองชมภูให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศหรือศูนย์การเรียนรู้ทางธรรมชาติ 4.ใช้มาตรา 44 ดำเนินการเพิกถอนประกาศแหล่งหินอุตสาหกรรมเนินมะปราง 5.ให้ส่งเสริมแนวป่าเทือกเขาหินปูนแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศอย่างมีส่วนร่วมและยั่งยืน
“ตำรวจมีการเปลี่ยนชุดสืบสวนคดีทุกปี แต่ไม่เคยมีความคืบหน้า เราจึงอยากให้ทหารและทางจังหวัดช่วยเร่งรัดคดี เพราะชาวบ้านทุกคนยังรอคอยว่าเมื่อไรจับกุมคนร้ายได้ เพราะนายพิทักษ์เป็นตัวแทนการต่อสู้ของชาวชมภู” นายธีเชษฐ กล่าว
นายธีรเชษฐ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ชาวบ้านได้ร้องเรียนเรื่องที่มีนักการเมืองท้องถิ่นกลุ่มหนึ่ง พยายามผลักดันฟื้นโครงการก่อสร้างเขื่อนคลองชมพู โดยล่าสุดมีทำเสื้อยืดพิมพ์ข้อความสนับสนุนการสร้างเขื่อน แจกจ่ายให้ชาวบ้านในพื้นที่เนินมะปรางและบ้างมุงผ่านทางหัวคะแนน ซึ่งชาวบ้านมองว่าอาจเป็นการแอบอ้างเบี้องสูง และเป็นการเคลื่อนไหวทางการเมือง เพราะมีข้อความที่ไม่เหมาะสม จึงอยากให้จังหวัดพิษณุโลกและทหารเข้าไปตรวจสอบ เพราะนักการเมืองกลุ่มนี้มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เพราะมีการบุกรุกที่ดินในเขตอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง เขตป่าสงวน และบนเขารักไทยนับร้อยไร่ ทั้งมีการสร้างมวลชนในพื้นที่เพื่อเป็นการกันไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบตามนโยบายทวงคืนผืนป่าของรัฐบาล ซึ่งบนเขารักไทยมีการซื้อขายสิทธิ์ที่ดินสูงถึงไร่ละ 1 ล้านบาท ทั้งที่หลายแปลงไม่มีเอกสารสิทธิ์ ซึ่งตัวแทนทหารก็ได้ให้ข้อมูลกับชาวบ้านว่าตอนนี้กำลังจะมีการลงไปตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าวอยู่แล้ว โดยจะมีการเชิญนักการเมืองคนดังกล่าวมาพบเร็ว ๆ นี้
“นักการเมืองกลุ่มนี้อยากให้สร้างเขื่อน เพราะเป็นเจ้าของธุรกิจรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ในพื้นที่ และมีกิจการโรงโม่หิน ซึ่งหากดูในอีไอเอฉบับเดิมที่ถูกยกเลิกไป ระบุว่าสันเขื่อนจะต้องใช้แหล่งหินจากในพื้นที่ ซึ่งมีแนวแทือกเขาหินปูนเนินมะปรางที่ยังไม่ได้ยกเลิกประกาศแหล่งหินอุตสาหกรรม หากดันเขื่อนสำเร็จเขาจะเป็นผู้ได้ผลประโยชน์มหาศาล แต่ชาวบ้านอยากให้มีการยกเลิกแหล่งหินอุตสาหกรรม เพื่อยกให้เป็นพื้นที่คุ้มครองทางสิ่งแวดล้อม และเป็นแหล่งผลิตอาหารของโลก” นายธีรเชษฐ กล่าว