
พลจัตวา อ่องจ่อโฮ เจ้าหน้าที่จากการกระทรวงกลาโหมของพม่าได้ออกมาเปิดเผยว่า หากได้รับคำสั่งจากนายอูวินมิ้น ประธานาธิบดีพม่าให้หยุดปฏิบัติการโจมตีในรัฐคะฉิ่น ทางกองทัพพม่าก็พร้อมที่จะปฏิบ้ติตาม ขณะที่โจมตีว่า สงครามที่เกิดขึ้นเป็นเพราะกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์เป็นฝ่ายจุดชนวน โจมตีเจ้าหน้าที่ทางการพม่าก่อน กองทัพพม่าจึงต้องทำการตอบโต้ โดยสงครามยังคงเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ทางเหนือของประเทศ
มีรายงานว่า พลจัตวาอ่องจ่อโฮ ได้ถูกนักข่าวจากสำนักข่าวอิรวะดีซักถามว่า หากทางประธานาธิบดีอูวินมิ้นสั่งการให้ยุติทำสงครามในรัฐคะฉิ่น ทางกองทัพพม่าจะปฏิบัติตามเหมือนสมัยที่อยู่ภายใต้การบริหารของอดีตประธานาธิบดีเต็งเส่งหรือไม่ ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่า เต็งเส่งนั้นได้รับการสนับสนุนโดยทหารและตัวเขายังเคยเป็นอดีตนายพลในกองทัพพม่าอีกด้วย ซึ่งเรื่องนี้ทางนายอ่องจ่อโฮกล่าวว่า ทางกองทัพพม่าพร้อมที่จะปฏิบัติตามคำสั่งโดยทันทีหากได้รับสั่งการ
“กองทัพอยู่ภายใต้ของผู้นำประเทศ ประธานาธิบดีเปรียบเหมือนผู้นำประเทศ หากได้รับคำสั่ง เราพร้อมที่จะทำตาม ไม่มีเหตุผลใดที่จะไม่ทำตาม” พลจัตวา อ่องจ่อโฮ กล่าวกับสื่อมวลชน
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่กองทัพพม่ารายนี้กล่าวหาว่า เหตุที่สงครามยังคงเกิดขึ้นต่อไปเป็นเพราะทางกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์เป็นฝ่ายจุดชนวนให้สงครามเกิดขึ้นต่อไป โดยการโจมตีกองบัญชาการกองทัพพม่าก่อน ดังนั้นจึงทำให้กองทัพตั้ตมะด่อว์ต้องตอบโต้กลับ
“พวกเขารีดไถเงินบนทางหลวง สังหารและใช้กับระเบิดโจมตี รวมถึงการทำลายล้างอื่นๆ ซึ่งเป็นอุปสรรค์สำหรับการบริหารงานของรัฐบาล เราจึงต้องตอบโต้กลับ” พลจัตวา อ่องจ่อโฮ กล่าว เจ้าหน้าที่คนเดิมยังกล่าวว่า กองทัพพม่าไม่ใช่สาเหตุทำให้การประชุมสัญญาป๋างโหลงต้องเลื่อนช้าออกไป โดยหากกลุ่มชาติพันธุ์ยอมปฏิบัติตามแนวทางข้อตกลงสัญญาหยุดยิง เชื่อว่าสันติภาพก็จะไม่ไกลเกินเอื้อม
ทางด้านอูลินลินอู ส.ส.จากเมืองทาไน รัฐคะฉิ่น ในพื้นที่สู้รบกล่าวแสดงความเห็นว่า จะเป็นเรื่องยาก หากฝั่งรัฐบาลต้องการจะเจรจากับกลุ่มชาติพันธุ์ แต่ยังไม่หยุดยิงโจมตี
“เป็นแนวคิดที่ดูจะไม่ดีนัก หากจะใช้การทหารแก้ปัญหา รัฐบาลควรที่จะเป็นสื่อกลางหยุดสงคราม ไม่เช่นนั้นจะเกิดปัญหาร้ายแรงตามมา เช่นผู้พลัดถิ่นภายใน ซึ่งจะเป็นปัญหากับรัฐบาลเอง” เขากล่าว
ที่มา Irrawaddy/Tai Freedom
แปลและเรียบเรียงโดย สำนักข่าวชายขอบ