ทางการพม่าสั่งปิดร้านอาหารเกาหลีเหนือในย่างกุ้ง เชื่อต้องการรักษาสัมพันธ์กับสหรัฐฯ

สื่อท้องถิ่นของพม่ารายงานว่า ทางการพม่าได้สั่งปิดร้านอาหารที่ชื่อ The Pyongyang Koryo ตั้งอยู่บนถนนสะหย่า ซาน เมืองบะฮาน เขตย่างกุ้ง ซึ่งเป็นร้านอาหารของสถานทูตเกาหลีเหนือในกรุงย่างกุ้งเมื่อไม่นานมานี้ โดยเชื่อว่าน่าจะได้รับการร้องขอจากสหรัฐฯ ให้เคารพคำตัดสินของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่ให้คว่ำบาตรตอบโต้เกาหลีเหนือ โดยร้านอาหารแห่งนี้เปิดเมื่อปี 2554 หลังจากที่ความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศมีทีท่าทีดีขึ้นในช่วงเวลานั้น

ด้านนายอูทินโซ เลขาทั่วไปฝ่ายบริหารเมืองบะฮานเปิดเผยว่า สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของพม่าได้สั่งปิดร้านอาหารเกาหลีเหนือตั้งแต่เมื่อ 2 เดือนที่แล้ว โดยเผยเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ทางร้านดังกล่าวกำลังเปลี่ยนเจ้าของใหม่และอยู่ระหว่างปรับปรุง ทางด้านนายอูซอเท โฆษกสำนักงานประธานาธิบดีพม่าไม่ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ให้ทางผู้สื่อข่าวสอบถามไปยังสำนักงานบริหารท้องถิ่นเมืองย่างกุ้งแทน อย่างไรก็ตาม ผู้สังเกตการณ์มองว่า การที่ทางการพม่าสั่งปิดร้านอาหารเกาหลีเหนือก็เพราะต้องการรักษาความสัมพันธ์อันดีกับสหรัฐอเมริกา

มีรายงานว่า พนักงานชาวเกาหลีเหนือที่ร้านแห่งนี้ นอกจากจะนี้แต่งกายเหมือนกันคอยให้บริการลูกค้าแล้ว ยังสามารถพูดหรือแม้แต่ร้องเพลงภาษาพม่าได้ ทั้งนี้ในอดีต รัฐบาลเผด็จการทหารพม่าได้สั่งซื้ออาวุธทางทหารมาจากประเทศเกาหลีเหนือ หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายหันมาพัฒนาความสัมพันธ์ดีขึ้น โดยทั้งสองประเทศต่างก็ถูกนานาประเทศวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในช่วงเวลานั้น หลังจากมีรายงานการสั่งซื้ออาวุธถูกเผยแพร่ออกไป ขณะที่ในตอนนี้ ดูเหมือนทางรัฐบาลพม่าแสดงท่าทีว่าไม่มีความใกล้ชิดกับเกาหลีเหนือเพราะไม่ต้องการให้กระทบความสัมพันธ์กับชาติตะวันตกอย่างอเมริกา

พม่าตัดความสัมพันธ์กับเกาหลีเหนือโดยสิ้นเชิงเมื่อปี 2526 หลังเกิดเหตุการณ์สายลับเกาหลีเหนือได้พยายามก่อเหตุสังหารนายซุนดูฮวาน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ขณะกำลังเยือนพม่าในเวลานั้น เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 21 คน เป็นชาวเกาหลีใต้ 17 คน ซึ่งมีทั้งรัฐมนตรีและสมาชิกรัฐสภาของเกาหลีใต้รวมอยู่ด้วย โดยหลังเหตุการณ์ทางการพม่าสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้ 3 ราย เป็นชาวเกาหลีเหนือทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ทั้งสองประเทศกลับมารื้อฟื้นความสัมพันธ์กันอีกครั้งเมื่อปี 2550 ที่ผ่านมา

ที่มา Irrawaddy
แปลและเรียบเรียงโดย สำนักข่าวชายขอบ