เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2561 ที่บริเวณหอประชุมหมู่บ้านทุ่งงิ้ว ตำบลสถาน อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย นายทัศนัย สุธาพจน์ นายอำเภอเชียงของได้เดินทางมาประชุมร่วมกับชาวบ้านทุ่งงิ้ว เพื่อหารือถึงกรณีที่รัฐบาลมีนโยบายใช้พื้นที่ป่าชุ่มน้ำบ้านทุ่งงิ้วประมาณ 500 ไร่ เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งมีชาวบ้านเข้าร่วมประมาณ 200 คน โดยชาวบ้านส่วนใหญ่ต่างแสดงความคิดเห็นคัดค้านการนำพื้นที่บริเวณดังกล่าวไปใช้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ
นายทัศนัยกล่าวในที่ประชุมว่า ทุกๆ คนก็มีสิทธิที่จะไปใช้ประโยชน์พื้นที่ได้ ไม่ว่าจะเป็นคนที่ไหนก็ตาม ซึ่งตนพูดตามหลักการ เพียงแต่ว่าเรามาหารือกันว่าจะช่วยกันพัฒนาพื้นที่ได้อย่างไร เพื่อจะได้ประโยชน์ หรืออยากจะให้เกิดวิถีการพัฒนาพื้นที่บริเวณนี้ได้อย่างไร นี่คือสิ่งที่อยากจะฟังความคิดเห็นของชาวบ้านทั้งหลาย
น.ส.เพียงใจ ทะกัน ชาวบ้านทุ่งงิ้วกล่าวว่า รัฐมีความชัดเจนหรือยังที่จะทำอะไรในพื้นที่ และมีช่องทางอื่นหรือไม่ที่จะใช้พื้นที่อื่น คือคนที่เป็นนักลงทุนเป็นกลุ่มคนที่มีเงิน จึงพอจะมีการระดมทุนเพื่อหาซื้อพื้นที่ใหม่ได้ โดยพื้นที่ป่าชุ่มน้ำแห่งนี้มีต้นไม้ขนาดหลายคนโอบซึ่งที่อื่นไม่ค่อยจะพบเห็นแล้ว หลายประเทศจัดทัวร์เที่ยวป่าและดูต้นไม้ คือไปโอบแล้วถ่ายรูป อย่างเช่นที่สิบสองปันนาในจีนที่เรียกว่า ป่าอรัญญา เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ทุกคนตื่นเต้นเพราะว่าป่าที่นั่นมีต้นไม้ใหญ่ และมีต้นไม้ที่ใกล้จะสูญหาย
น.ส.เพียงใจกล่าวว่า เรื่องของการจ้างงานถึงแม้ว่าโรงงานจะไม่ได้ปล่อยมลภาวะทางอากาศ แต่เราจะมั่นได้อย่างไรว่าโรงงานจะจ้างคนในชุมชน ทุกวันนี้ทุกคนคงได้เห็นทางสื่อต่างๆ ในโลกออนไลน์ว่า โรงงานสมัยใหม่เขาใช้หุ่นยนต์กันหมดแล้ว และอยากให้หน่วยงานภาครัฐมีความชัดเจนมากขึ้น เราสามารถพัฒนาพื้นที่ชุมชนของเราให้มีรายได้ เข้ามาสู่ชุมชนในทางอื่นได้หรือไม่ เช่นเรื่องการท่องเที่ยวโดยอีก 30 ปีข้างหน้า ใครที่อยากได้อากาศบริสุทธ์ก็ต้องมาที่นี่
นายคงฤทธิ์ ตันกายา ชาวบ้านทุ่งงิ้วกล่าวว่า เคยได้ฟังชาวบ้านพูดว่า เอาไปเลยขอแลกกับเงินเท่านั้นเท่านี้ ซึ่งการทำแบบนี้ไม่ทำให้รู้สึกภาคภูมิใจ เพราะไม่ใช่วิสัยทัศน์ของพ่อแม่พี่น้องในชุมชน หรือพ่อเฒ่าแม่หม่อน ซึ่งท่านได้เสียไปแล้วอยู่บนสวรรค์ชั้นฟ้าและได้รักษาพื้นที่ไว้ให้กับส่วนรวมเป็นประโยชน์ของคนทั่วไป สร้างคุณประโยชน์มาจนถึงรุ่นลูกรุ่นหลานถึงพวกเราและอีกต่อไป
“เราไม่เอานิคม เราจะขอรักษาที่ดินชุ่มน้ำผืนนี้ไว้ให้เป็นผืนป่าเท่าที่พ่อแม่พี่น้องพูดมา เรามารักษาไว้ให้เป็นปอด ยิ่งต่อไปจะมีเขตเศรษฐกิจพิเศษ เป็นนิคมอุตสาหกรรม มันมีแต่ควันพิษ มันมีแต่สิ่งแปลกปลอม เรารักษาพื้นที่ตรงนี้ไว้เป็นปอด รักษากันไว้หลายชั่วอายุคนแล้ว เราจะปล่อยให้นิคมอุตสาหกรรมตัดต้นไม้ของเราไปหรือไร พ่อเฒ่าแม่เฒ่าขอไว้ ขอฮื้อป่าเป็นป่าอย่ารุกราน พวกเฮาจงกล้าหาญสู้ให้ป่าเป็นป่าสืบต่อไป” นายคงฤทธิ์กล่าว
ทั้งนี้นายอำเภอเชียงของได้สรุปในตอนท้ายว่าจะนำความคิดเห็นของชาวบ้านนำเสนอไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ซึ่งผู้ว่าฯ จะเสนอไปยังรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยต่อไป เพื่อนำสู่ที่ประชุมในวันที่ 24 สิงหาคม ที่จะมีการประชุมร่วมกับภาคเอกชนที่ผลักดันนโยบายเขตเศรษฐกิจพิเศษ
————–