
เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2561 นายสรายุทธ์ สนรักษา ผู้ประสานงานสภาลุ่มน้ำคลองหลวง เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (13 กันยายน) เวลา 11.00 น. ชาวบ้านจำนวน 10-20 คนในตำบลเขาดิน อำเภอบางปะกง จังหวัดเชิงเทรา จะเดินทางไปยื่นหนังสือร้องเรียนถึงผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา และศูนย์ดำรงธรรม เพื่อขอให้มีการบังคับใช้และปฎิบัติตามกฎหมาย เนื่องจากชาวบ้านกำลังเดือดร้อนจากการที่มีภาคเอกชนรายใหญ่เข้ามากว้านซื้อที่ดินเพื่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการภายใต้ระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก (EEC) และขณะนี้ได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างโดยไม่ทำประชาพิจารณ์ และไม่มีการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมขัดกับกฎหมายผังเมืองเพราะบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่สีเขียว แต่กลับมีการอนุมัติให้ก่อสร้างดำเนินการขุดดินถมดิน มิชอบด้วยกฎหมาย โดยเจ้าพนักงานท้องถิ่น
นายสรายุทธ์กล่าวว่า เมื่อปลายปีก่อนนายทุนได้เข้ามากว้านซื้อที่ดินจากชาวบ้านโดยอ้างว่านำไปสร้างเป็นศูนย์การค้าและมหาวิทยาลัย จนได้ที่ดินไปราว 3,000-4,000 ไร่ แต่ต่อมาชาวบ้านได้ไปเห็นข้อมูลที่จังหวัดกลับปรากฎว่ามีการขอใช้ที่ดินสร้างเป็นนิคมอุตสาหรรมแบตเตอรี่ซึ่งชาวบ้านรับไม่ได้ เพราะเป็นห่วงในเรื่องผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตามที่ดินบริเวณดังกล่าวอยู่ในเขตสีเขียวของสำนักงานผังเมือง ดังนั้นจึงยังสร้างเป็นอุตสาหกรรมไม่ได้ อย่างไรก็ตามล่าสุดเมื่อ 3-4 เดือนที่ผ่านมาได้มีการถมดินและเริ่มก่อสร้างอาคาร ทำให้ชาวบ้านรู้สึกกังวลใจมาก
“เขาจะเอาที่ดินไปสร้างอะไร อย่างน้อยก็ควรสื่อสารกับชาวบ้านบ้าง ที่ผ่านมาไม่เคยมีการให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับชาวบ้านเลย แถมยังมีการทำผิดกฎหมายเพราะมีการขับไล่ชาวบ้านซึ่งเช่าที่ดินทำนา จริงๆแล้วต้องให้สัญญาเช่าหมดก่อน ถึงจะเลิกสัญญาได้ แต่นายทุนที่ซื้อที่ดินไปกลับเริ่มลงมือขับไล่ชาวบ้านแล้ว ทำให้เดือดร้อนกันมาก” นายสรายุทธ์ กล่าว

นางวันดี บัวพรหม อายุ 62 ปี ชาวบ้านหมู่ 7 ตำบลเขาดิน อำเภอบางปะกง กล่าวว่าตนเช่าที่ดินเพื่อทำนาโดยมีสัญญาเช่า 3 ปี คือตั้งแต่ปี 2560-2563 แต่จู่เมื่อ 3-4 เดือนก่อนเจ้าของที่ดินได้บอกเลิกสัญญาเช่าและแจ้งให้รีบย้ายออกโดยบอกว่าได้ขายที่ดินไปแล้ว แต่ตนเพิ่งลงทุนไป 5 แสนบาทเพื่อทำนาและเลี้ยงปลา จึงยังไม่ได้ย้ายไปไหน ล่าสุดเขาได้ส่งรถแบล็คโฮมารื้อบ้านและถมที่นา
“ตอนนี้เลยต้องเป็นหนี้ธกส. ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เดือดร้อนกันมาก เพราะเราเคยแต่ทำนา แต่ไม่มีที่ดินของตัวเองก็ต้องไปเช่าคนอื่น ป้ารู้สึกเสียใจที่ถูกไล่ที่ เพื่อนๆที่เป็นชาวนาอีกหลายคนก็ตกอยู่ในสภาพเดียวกัน ก็เลยว่าจะไปยื่นหนังสือถึงผู้ว่าฯ เพื่อให้ช่วยแก้ปัญหาให้หน่อย” นางวันดี กล่าว