เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2561 นายเจริญ หลานชายปู่คออี้ ให้สัมภาษณ์ว่างานเผาศพปู่คออี้จะจัดขึ้นแบบเรียบง่ายตามวิถีดั้งเดิมของคนกะเหรี่ยง ในเวลา 9.00-10.00 น.ของวันที่ 12 ตุลาคม ที่บ้านบางกลอยล่าง โดยขณะนี้ได้เตรียมไม้สำหรับเป็นฟืนไว้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะเก็บเถ้ากระดูกส่วนหนึ่ง
“สิ่งที่ทางลูกๆ หลานๆ ปู่คุยกันคืออยากให้มีการสร้างพิพิธภณฑ์ที่รวบรวมข้างของและเรื่องราวของปู่เอาไว้ให้ชนรุ่นหลังได้เรียนรู้ต่อไป” นายเจริญกล่าว
นางเตือนใจ ดีเทศน์ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เปิดเผยภายหลังการไปค้างคืนที่บ้านบางกลอยเมื่อคืนวันที่ 10 เพื่อเคารพศพปู่คออี้ ว่าได้เจอลูกหลานปู่คออี้ซึ่งมาร่วมงานกันจำนวนมาก และได้มีการปรึกษากันถึงเรื่องการทำอนุสาวรีย์ไว้ให้ปู่ซึ่งอาจมีการจัดทำรูปปั้นมาตั้งไว้ที่บ้านบางกลอยซึ่งไม่ขัดกับความเชื่อของชาวกะเหรี่ยง ขณะเดียวกับอาจมีการทำพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ควบคู่กันไป ซึ่งจะปรึกษาศูนย์มานุษยวิทยาสิรินทรเพื่อขอความช่วยเหลือ
“ครูเจริญเล่าให้ฟังว่า ปู่เคยบอกไว้ว่า ถ้าอยู่บนภูเขาและป่าใหญ่เรามีภูมิปัญญามากมายให้คนภายนอกได้เรียนรู้ แต่เมื่อเราถูกอพยพลงมาอยู่ข้างล่าง เราไม่สามารถปรับตัวได้ทัน ภูมิปัญญาต่างๆ ก็หายหมด ไร่หมุนเวียนที่เราทำก็แค่เปิดหน้าดินเพียงปีละครั้งตอนปลูกข้าว ถ้าเปิดหน้าดินมาก แผ่นดินก็ร้อนและเราก็อยู่กันไม่ได้” นางเตือนใจ กล่าวและว่าภูมิปัญหาต่างๆของปู่คออี้ควรได้มีการเก็บรวบรวมเอาไว้ให้ชนรุ่นหลังได้ศึกษา
นายมานะ เพิ่มพูล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน กล่าวว่าขณะนี้เส้นทางไปยังบ้านบางกลอยสามารถใช้รถกระบะโฟวิลเข้าถึงแล้วหลังจากฝนไม่ได้ตกมาหลายวัน โดยประชาชนที่ต้องการเดินทางไปร่วมงานศพปู่คออี้นั้น สามารถเข้าไปได้เลยโดยไม่ต้องขออนุญาต เพียงแต่บอกเจ้าหน้าที่ด่านว่าจะไปร่วมงานศพ หรือหากมีข้อสงสัยอาจแวะสอบถามเจ้าหน้าที่ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวของอุทยานฯ ได้เลย ซึ่งตนได้สั่งการเจ้าหน้าที่ไว้แล้ว
————