เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2561 ที่บริเวณลานสามเหลี่ยมชั้น 1 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เครือข่ายพิทักษ์รักษ์ป่าแก่งกระจาน ได้จัดกิจกรรม “ถนนในป่าอนุรักษ์ ความพอดีอยู่ตรงไหน..Road Kills!!” ซึ่งภายในงานได้มีนิทรรศการภาพถ่ายสัตว์ป่าและความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าแก่งกระจาน นอกจากนี้ยังได้ตั้งโต๊ะให้ประชาชนร่วมลงชื่อทำจดหมายถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้ชะลอโครงการสร้างถนนคอนกรีตสู่เขาพะเนินทุ่ง ซึ่งมีประชาชนมาร่วมลงชื่อกว่า 100 คน
ทั้งนี้เนื้อหาในจดหมายที่ส่งถึงนายกรัฐมนตรีระบุว่า ถนนคอนกรีตเส้นนี้จะสร้างผ่านพื้นที่ใจกลางอันเปรียบเสมือนหัวใจของผืนป่าแก่งกระจานซึ่งเป็นบริเวณที่มีความอุดมสมบูรณ์และหลากหลายที่สุดแห่งหนึ่งในอุทยานฯ โดยเป็นบ้าน ถิ่นอาศัยของสัตว์ป่ามากมายหลายชนิดโดยเฉพาะอย่างยิ่งสัตว์ป่าหายาก เช่น เสือ สัตว์ป่าสงวน อย่างเก้งหม้อ เลียงผา
“นักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญด้านระบบนิเวศน์หลายท่านเห็นว่า ที่จริงแล้วบริเวณพะเนินทุ่งนี้เหมาะจะเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่ามากกว่าเป็นอุทยานเพราะมีสัตว์ป่าอาศัยอยู่อย่างชุกชุม ควรจัดการให้มีการรบกวนจากมนุษย์น้อยที่สุด แต่การสร้างถนนคอนกรีตเพื่ออำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยว ทำให้สามารถขับรถใช้ความเร็วสูงขึ้น และปริมาณรถที่วิ่งจะมากขึ้น สิ่งเหล่านี้ย่อมส่งผลกระทบต่อสัตว์ป่าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้” ในหนังสือดังกล่าวระบุ
ในหนังสือระบุด้วยว่า พวกเราเห็นด้วยกับการซ่อมแซมเส้นทางนี้ให้อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน เพื่อการเดินทางที่ปลอดภัยของทั้งนักท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า ซึ่งใช้เป็นเส้นทางยุทธศาสตร์ของการลาดตระเวน แต่แทนที่เราจะไปปรับปรุงสภาพถนนเป็นคอนกรีตตลอดเส้นทาง เราน่าจะหันมาแก้ไขปรับปรุงเฉพาะบางจุด ที่มีความเสี่ยง ชำรุดซ้ำซาก
ทั้งนี้ภายในงานได้มีศิลปิน- ดารานักแสดงหลายคน อาทิ น.ส.เบญจศิริ วัฒนา ,โรส ศิรินทิพย์ ,ดีเจแมน เดินทางมาร่วมคัดค้านการสร้างถนนครั้งนี้โดยน.ส.เบญจศิริ กล่าวว่าตนไม่เข้าใจว่ามีความจำเป็นมากน้อยแค่ไหนถึงต้องมีการสร้างถนนคอนกรีตเข้าไปในเขาพะเนินทุ่ง ตนไม่อยากเห็นความสูญเสียหรือภาพสัตว์ป่าเสียชีวิต ที่สำคัญคือการสร้างถนนครั้งนี้ทำไมถึงให้คนไม่กี่คนตัดสินใจ
โรส สิรินทิพย์ “ป่าไทยเหลือน้อยมาก น้อยมากๆ (การตัดถนนคอนกรีตเข้าป่าแก่งกระจาน) มันเป็นการบุกรุกบ้านของสัตว์ป่า ที่แทบไม่เหลือแล้ว การสร้างถนนยิ่งทำให้บ้านเขามีสิ่งแปลกปลอม คุกคามสัตว์ป่า ให้อาหารมัน ทิ้งขยะ ถ่ายรูปมันเซลฟี่ สัตว์ป่าจะงง ตกลงกูเป็นดาราเหรอ? กลายเป็นสร้างความแปรปรวนมากขึ้น”
ดีเจแมนกล่าวว่า “ ไทยเรามีสัตว์ป่าเหลือน้อยมากแล้ว พวกคนมีอิทธิพลทำลายสัตว์ป่า ชาติเรามีเหลือไม่มาก เจอจรเข้ธรรมชาติ ที่ภูเก็ต ผมว่าน่าดีใจกว่าเจอมาดอนน่าตัวเป็นๆ แต่ไทยเอาไปจับขังมันเฉยเลย”
ขณะที่นายจำลอง วิลัยเลิศ ตัวแทนเครือข่ายพิทักษ์รักป่าแก่งกระจานได้แถลงข่าวคัดค้านการสร้างถนนคอนกรีตว่า ไม่เห็นด้วยกับการสร้างเส้นทางตลอดสายเนื่องจากการอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวแต่ต้องคำนึงถึงบทบาทของอุทยานฯด้วยเพราะเป็นพื้นที่ที่มีความหลากหลาย เรื่องการท่องเที่ยวควรเป็นรองจากการดูแลป่า
“บ่อยครั้งหน่วยงานรัฐเวลาทำโครงการ แต่ประชาชนไม่รู้เรื่อง โดยเราทราบข่าวเรื่องนี้เมื่ออุทยานฯปิดป้ายประกาศปิดอุทยาน 560 วันเหมือนกับว่าการตัดสินในครั้งนี้เป็นของคนไม่กี่คน แทนที่จะฟังความเห็นของคนทั่วไปเพราะป่าผืนนี้เป็นของทุกคน ไม่ใช่ใครคนใดคนหนึ่ง” นายจำลอง กล่าว
เวลา 14.30 น.ได้มีการเสวนา “ถนนในป่าอนุรักษ์ ความพอดีอยู่ตรงไหน” โดยผู้ร่วมเสวนาประกอบด้วย นพ.รังสฤษฎ์ กาญจนะวณิชย์ รองประธานมูลนิธิสืบนาคะเสถียร น.ส.บุบผา อ่ำเกตุ ประธานกลุ่ม save wildlife Thailand
ดร.ดุสิต งอประเสริฐ นักวิจัยประจำกลุ่มนิเวศวิทยาการอนุรักษ์ มหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าธนบุรี นายวิทวัส นวลอินทร์ และนายจำลอง วิลัยเลิศ
นพ.รังสฤษฎ์ กล่าวว่า กิจกรรมของมนุษย์ที่สร้างความเสียหายให้กับสัตว์ป่ามากที่สุดคือการสร้างถนนเพราะทุกพื้นที่ที่ถนนเข้าไปได้หั่นพื้นที่เป็นชิ้นๆและส่งผลกระทบในหลายประเด็นมาก และจะเกิดการแพร่กระจายเหมือนมะเร็ง โดยในประเทศไทยน่าห่วงคือบริเวณผืนป่าตะวันตกซึ่งมีความพยายามเปิดเส้นทางใหม่ๆอยู่ตลอดเวลา ซึ่งการหั่นเป็นพื้นที่เล็กๆจะทำให้เกิดการสูญพันธุ์อย่างรวดเร็วทั้งพืชและสัตว์ ยกตัวอย่างถนนขึ้นเขาใหญ่ลงปราจีนบุรี ทำให้ชะนีซึ่งเป็นสัตว์ที่โหนอยู่บนต้นไม้มีปัญหาทันทีคือหากินได้น้อยลง โอกาสรอดของเผ่าพันธุ์ก็น้อยลง ขณะที่นกเองเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากเสียงรบกวน
นพ.รังสฤษฎ์กล่าวว่า ปัญหานอกจากการล่าสัตว์โดยเจตนาแล้ว ยังเกิดจากนักท่องเที่ยวที่ไม่มีความรู้ แต่ที่สำคัญคืออุทยานฯไม่เคยเก็บข้อมูลของความสูญเสียทั้งสัตว์และพืชทั้งๆที่เป็นเรื่องสำคัญ โดยสัตว์ที่ตายมากที่สุดแต่ไม่ใช่สัตว์ที่เป็นดารา เช่น งูเขียว ค้างคาว แต่มีความสำคัญต่อระบบนิเวศ ซึ่งในป่าแก่งกระจานมีผีเสื้อลงมากินดินอยู่ข้างทางมากมาย เกรงว่าจะกลายเป็นโศกนาฎกรรมของผีเสื้อ
“การสร้างถนนเข้าไป ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อพฤติกรรมของสัตว์ป่า เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ หากจำเป็นต้องสร้างจริงๆเราควรออกแบบถนนให้ดีเพื่อลดผลกระทบ แม้โครงการนี้จะเป็นถนนเดิมแต่เป็นเส้นที่แทงเข้าไปในหัวใจของป่าผืนนี้ ป่าแก่งกระจานยังเป็นจุดรวมของนกจากทางเหนือและทางใต้มารวมกัน พื้นที่นี้เป็นพื้นที่พิเศษมาก”นพ.รังสฤษฎ์กล่าว
//////////////////