สำนักข่าววิทยุเอเชียเสรี รายงานว่า บริษัทเซเปียนเซน้ำน้อย เจ้าของโครงการเขื่อนเซเปียน เซน้ำน้อย เตรียมการซ่อมแซมสันเขื่อน D (Saddle D) ที่แตกพังลงมาเมื่อวันที่ 23 กรกฏาคม 2561 โดยจะเปลี่ยนจากเขื่อนดินเป็นคอนกรีตตามมาตรฐานความสูง 10-25 เมตร ตามแผนเดิมที่ออกแบบไว้ในต้นเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่บริษัท PNPC ได้ให้สัมภาษณ์ต่อสำนักข่าวเอเชียเสรีเมื่อวันที่ 25 มกราคม ที่ผ่านมาว่า
“แผนจากการก่อสร้าง ฟื้นฟู Render เน้นย้ำและรับประกันได้ว่าจะไม่เลื่อนเวลาออกไป มีการเตรียมการไว้ทุกอย่างโดยจะมีการเทคอนกรีตประมาณต้นเดือนมีนาคม รวมทั้งเปลี่ยนจากสันเขื่อนดินเป็นเขื่อนคอนกรีต โดยยกให้สูงขึ้นเพื่อความปลอดภัย” นอกจากนี้จะมีการเปลี่ยนแบบเป็นสันเขื่อนคอนกรีตเฉพาะสันเขื่อน D ส่วนอีกสันเขื่อนอีก 4 แห่ง นั้นยังเป็นเขื่อนดินเช่นเดิม แต่จะถมดินให้สูงขึ้น ตามมาตรการความสูงในการออกแบบ ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาในการซ่อมแซมไปจนถึงปลายปี 2562
สำนักข่าววิทยุเอเชียเสรีรายงานด้วยว่า เมื่อวันที่ 24 มกราคมที่ผ่านมา ผู้ถือหุ้นทั้ง 4 บริษัทคือ บริษัท SK Engineering Comparation, Korean Western company, Rachaburi Holding Ltm and Lao Share Holding Company ได้มีการประชุมกันที่กรุงเทพ ประเทศไทย เพื่อหารือเรื่องเงินกู้จากธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าของเกาหลีใต้ เพื่อซ่อมแซมสันเขื่อนที่แตกและส่วนหนึ่งก็จะนำมาจ่ายให้กับผู้รับเหมา ซึ่งบริษัทยังไม่เปิดเผยจำนวนเงินกู้ก้อนใหม่ดังกล่าว
ทั้งนี้แผนการออกแบบเขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อย ในเบื้องต้น ได้กำหนดความสูงของเขื่อนทั้ง 5 แห่งไว้ที่ 10 -25 เมตร แต่บริษัท SK ได้ส่งแบบให้สำนักงาน สภาผู้แทนราษฎรของเกาหลีใต้ ได้ระบุว่า ความสูงของสันเขื่อนอยู่ที่ 3.5 – 18.6 เมตร หรือความสูงเฉลี่ยของสันเขื่อนทั้งหมด 5 แห่ง คือ 6.5 เมตร เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างลงประมาณ 19 ล้านเหรียญสหรัฐ
ถึงอย่างไรก็ตาม บริษัท PNPC กำลังเตรียมรายงานผลการสอบสวนสาเหตุของสันเขื่อน D แตกในเบื้องต้น ในท้ายเดือนมกราคมนี้ต่อรัฐบาลลาว ก่อนที่จะสรุปผลการสอบสวนสาเหตุการแตกของสันเขื่อนว่ามาจากโครงสร้างที่ไม่ได้มาตรฐานหรือเพราะธรรมชาติภายในปลายเดือนมีนาคม 2562 นี้
——-
ที่มา https://www.rfa.org/lao/daily/economy/laos-attapeu-sanamxay-pnpc-to-rebuild-xepian-dam-saddle-D-01252019075113.html?searchterm:utf8:ustring=+Saddle+D