
เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2562 นายวิทวัส เทพสง ตัวแทนเครือข่ายชาวเลอันดามัน เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีปัญหาที่ดินสุสานชาวมอแกนเกาะเหลา จ.ระนอง ว่า ภายหลังจากมีเอกชนอ้างกรรมสิทธิที่ดินสุสานชาวเลได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ จนมีการเชิญทุกฝ่ายไปเจรจาที่ สภ.ปากน้ำระนอง ล่าสุดวันนี้ตำรวจ ทหาร ได้ลงตรวจสอบแนวเขตที่ดินสุสานชาวมอแกน เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายชี้จุดยืนยันหลักเขตที่ชัดเจน
นายวิทวัส กล่าวว่า ปัญหาที่ดินสุสานชาวเลเกาะเหลาเป็นหนึ่งในกรณีปัญหาที่ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือพีมูฟ ได้ร่วมกันผลักดันให้เกิดการแก้ปัญหาระดับนโยบาย ซึ่งเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ รัฐบาลได้ตอบรับเรื่องนี้เข้าสู่ขั้นตอนการแก้ปัญหาแล้ว จึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานในพื้นที่ชะลอการตรวจสอบไว้ก่อน เนื่องจากชาวบ้านกำลังตกเป็นเหยื่อของกระบวนการตรวจสอบที่ผิดปกติโดยเฉพาะอิทธิพลในพื้นที่มีการกดดันชาวบ้านให้เซ็นยินยอมในการตรวจสอบข้อพิพาทที่ดิน
“สุสานชาวมอแกนอย่างน้อยๆ ไม่ต่ำกว่า 40-50 ปี มีการฝังต่อเนื่อง ชาวบ้านสำรวจล่าสุดมีมากกว่า 100 หลุมศพ แต่ครั้งก่อนที่นายทุนลงไปกับตำรวจ ชี้ว่าหลุมไอ้นั่นไอ้นี่ และบอกชาวบ้านโกหกว่าเอาไม้มาปักหลุมศพไว้ให้ดูจำนวนมาก พฤติกรรมเขาแบบนี้มันสะท้อนมุมมองบางอย่างที่มีต่อชาวเล” นายวิทวัส กล่าว
นายวิทวัส กล่าวอีกว่า ปัญหาที่ดินชาวเลในอันดามันไม่ได้เกิดขึ้นที่เกาะเหลาเท่านั้น จึงควรนำปัญหาไปแก้ไขระดับบนโยบายและข้อกฏหมายที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะการตรวจสอบสุสานชาวเล หากจำเป็นต้องมีการขุดกระดูกเพื่อพิสูจน์ก็ต้องให้สถาบันนิติเวช กรมสอบสวนคดีพิเศษ กรมที่ดิน กรมศิลปากรร่วมกันพิสูจน์ข้อเท็จจริง ไม่ใช่ปล่อยให้ชาวบ้านตกอยู่ในสถานการณ์เสี่ยงถูกละเมิดสิทธิอย่างนี้
“ที่ดินไม่ได้มีหลักหมุดแต่เขาก็กดดันให้ชาวบ้านมายืนชี้จุด ทราบมาว่านายทุนไม่อยากให้ชาวบ้านฝังศพ เพราะกลัวที่ดินราคาตก แต่สุสานก็มีมานานแล้ว อย่าไปแย่งที่สุสานของชาวบ้านเลย รัฐควรไปตรวจสอบที่ดินเอกชนมากกว่ามาไล่จับชาวบ้าน เพราะป่าชายเลนหรืออุทยานในอันดามันก็ถูกบุกรุกจำนวนมาก” นายวิทวัส กล่าว