สำนักข่าววิทยุเอเชียเสรี รายงานเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2562 ว่า ชาวบ้านอย่างน้อย 140 ครอบครัว ใน 8 หมู่บ้านที่เมืองโขง แขวงจำปาสัก สปป.ลาว ปฏิเสธที่จะขายที่ดินและไม่ยอมโยกย้ายในพื้นที่โครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษที่มีแผนดำเนินโครงการในพื้นที่ แม้ว่าผู้พัฒนาโครงการจะเริ่มก่อสร้างถนนเพื่อจะขนอุปกรณ์ เข้าติด ๆ กับหลายหมู่บ้าน
แผนการพัฒนาระยะแรกของโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษมหานทีสี่พันดอน คาดว่าจะเริ่มต้นก่อสร้างในปี 2021 ครอบคลุมพื้นที่กว่า 200 เฮกตาร์ รวมถึงพื้นที่ของชุมชนใน 6 หมู่บ้าน โครงการคาดว่าขยายพื้นที่เพิ่มเติมเป็น 10,000 เฮกตาร์ หรือ 100,000 ไร่ ในพื้นที่จังหวัดจำปาสัก
ระยะแรกของโครงการมีแผนจะสร้างโรงแรม 35 แห่งและคาสิโน มูลค่าการก่อสร้างกว่า 9 พันล้านเหรียญสหรัฐ
บริษัทลาวมหานทีสี่พันดัน(ฮ่องกง) อินเวสต์เมนต์จำกัด (Laos Maha Nathi Siphandone(Hong Kong) Investment Co.Ltd) ได้รับสัญญาสัมปทาน 99 ปีในการใช้ที่ดินเพื่อพัฒนาเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ โดยเป็นผู้ลงทุน 80 เปอร์เซ็นต์และส่วนที่เหลือรัฐบาลลาวเป็นผู้ลงทุนร่วม โดยได้มีการเซ็นข้อตกลงเพื่อความเข้าใจ(MOU) เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน ปี 2017 ที่ผ่านมาสำหรับการก่อสร้างในระยะที่ 1
ชาวบ้านบ้านหินซุย บ้านโพน บ้านหางคอน บ้านดอนโขง บ้านเมืองแสน บ้านโพนขาว บ้านท่ากอบ บ้านหัวคก ยืนยันอย่างป็นทางการว่าไม่ยินยอมยกที่ดินให้กับบริษัท
“บริษัทอยากได้ที่ดินของประชาชน แต่ประชานไม่อยากให้” ผู้นำของหมู่บ้านในพื้นที่โครงการกล่าวกับสำนักข่าววิทยุเอเชียเสรีเมื่อเดือนที่ผ่านมา
“เราได้ร้องเรียนไปยังสภาประชาชนว่า เราไม่ต้องการยกที่ดินให้พวกเขา เราอยู่ที่นี่มาหลายชั่วอายุคน” ผู้นำหมู่บ้านกล่าว
ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ได้รับผลกระทบจากโครงการกล่าวว่า พวกเขาเข้าใจว่าโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษจะนำประโยชน์ด้านเศรษฐกิจมาสู่ประเทศ
“เราเข้าใจถึงการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ แต่ถ้าเรายกที่ดินให้เขาไป เราจะไม่มีที่อยู่” ผู้นำหมู่บ้านกล่าว
เขาอธิบายเพิ่มเติมว่า หลังจากการร้องเรียนแล้ว หน่วยงานท้องถิ่นได้ตัดสินใจยกที่ดินแปลงอื่นที่อยู่ใกล้กับบ้านท่ากอบ ซึ่งเป็นที่ดินที่ติดกับสนามกอล์ฟให้แก่บริษัท แต่ไม่ได้แก้ปัญหาอะไร เพราะว่าบริษัทกำลังจะสร้างถนนยาว 40 กิโลเมตรเข้าไปยังพื้นที่แห่งนั้น
“ถนนกว้าง 6 เมตร แต่หน่วยงานท้องถิ่นบอกว่าต้องทำประมาณ 6.5 เมตร เมื่อเริ่มทำถนน บริษัทก็พยายามถมดินแบบง่ายเพื่อประหยัดงบ” เขากล่าว
ขณะที่เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นของเมืองโขงกล่าวว่า ชาวบ้านและบริษัทไม่สามารถที่ประนีประนอมกันได้
“ผู้พัฒนาโครงการอยากขยายดอนโขงและดอนสะเอา แต่ชาวบ้านไม่เห็นด้วยกับแผนดังกล่าว พวกเขาอยากให้ไปสร้างในพื้นที่ที่ห่างไกลจากชุมชน เช่น ที่น้ำตกคอนพะเพ็ง เพราะว่าพวกเขาไม่อยากถูกละเมิดสิทธิ์
นอกจากนี้เขายังกล่าวอีกว่า แผนการพัฒนาระยะแรกจะครอบคลุมพื้นที่กว่า 3,000 เฮกตาร์ และกระทบต่อชาวบ้าน 8 หมู่บ้าน ต่อมาบริษัทจะขยายพื้นที่เป็น 6,000 เฮกตาร์และจะส่งผลกระทบต่อชาวบ้านมากกว่า 11 หมู่บ้าน
ที่มาhttps://www.rfa.org/english/news/laos/laos-sez-champassak-05092019173146.html