
เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2562 นายปริญญา ศรีสุคนธ์ สมาชิกกลุ่มรักษ์เมืองเพชร จ.เพชรบุรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ชาวบ้านในหลายอำเภอในจังหวัดเพชรบุรีร่วมกันคัดค้านโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) สายนครปฐม – ชะอำ ว่าเนื่องจากตามแนวที่กรมทางหลวงวางแผนไว้นั้น ส่งผลกระทบต่อชาวบ้านเป็นอย่างมาก ซึ่งในการเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นชาวบ้านต่างไม่เห็นด้วยและเสนอให้เปลี่ยนไปสร้างตามแนวถนนหนองหญ้าปล้อง-แก่งกระจาน (3501) แต่กรมทางหลวงยังไม่มีการขยับใดๆ และยังคงใช้แนวเส้นทางเดิม

นายปริญญากล่าวว่า มีหลายประเด็นที่ชาวบ้านยังข้องใจ โดยโครงการนี้ต้องศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม(อีไอเอ) แต่กรมทางหลวงได้ใช้อีไอเอเก่าที่ทำไปตั้งแต่ปี 2555 ซึ่งหมดอายุแล้วโดยอ้างว่าปรับปรุงเพิ่ม แต่ความจริงแล้วกลับไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่สำคัญคือควรจัดทำอีไอเอกันใหม่เพราะบริบทเปลี่ยนแปลงไปมาก และสิ่งที่ได้รับฟังจากชาวบ้านไปแล้วนั้นไม่มีการแก้ไขใดๆ เลยเพราะเส้นทางตามแผนเดิมนั้นกั้นเส้นทางไหลของน้ำซึ่งจังหวัดเพชรบุรีได้เกิดน้ำท่วมใหญ่ติดต่อกันมาหลายปี
“เขาชี้แจงไม่ได้ว่าทำไมถึงเลือกเส้นทางนี้ ทั้งๆ ที่ชาวบ้านเสนอทางเลือกให้ แต่เขาอ้างว่าเส้นทาง 3501 ติดป่าสงวนแต่ทำไมที่สร้างไปแล้วนั้น ถึงสร้างได้ ชาวบ้านไม่ได้กังวลในเรื่องค่าเวนคืนแต่เป็นห่วงในเรื่องผลกระทบมากกว่า ตอนนี้ที่ดินเปลี่ยนมือไปมาก แถวบ้านหัวตะพานซึ่งโครงการตัดผ่านมีนายทุนมาซื้อที่ดินไว้นับพันไร่ ที่สำคัญคือหากมีการสร้างตามแนวที่กรมทางหลวงวางไว้จะทำให้พื้นที่ดงตาลและไร่นาเกษตรกรรมจำนวนมากจะถูกทำลาย” นายปริญญา กล่าว

นายปริญญากล่าวว่า บริษัทที่ปรึกษาเดิมที่กรมทางหลวงว่าจ้างไว้ได้เลิกสัญญาไปแล้ว เพราะเขายอมรับว่าหากกรมทางหลวงยังใช้เส้นทางที่วางแผนไว้ก็จะมีปัญหา โดยหากจะแก้ปัญหาได้จะต้องยกระดับเส้นทางตลอดแนวซึ่งเป็นไปไม่ได้
นางสาวสุมล สุตะวิริยะวัฒน์ ประธานชมรมอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเพชรบุรีและอดีตสมาชิกวุฒิสภา กล่าวว่า คนเมืองเพชรไม่มีใครคัดค้านการพัฒนาและความเจริญ แต่ก่อนที่รัฐจะทำโครงการใดมาให้ประชาชนควรศึกษาพื้นที่ให้ดีก่อนว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ อย่างไร คุ้มค่ากับการลงทุนหรือไม่ เพราะขณะนี้มีทั้งโครงการมอเตอร์เวย์ โครงการรถไฟความเร็วสูงและรถไฟรางคู่ โดยในส่วนของรถไฟรางคู่นั้น ประชาชนส่วนใหญ่เห็นด้วย แต่โครงการมอเตอร์เวย์และรถไฟความเร็วสูงนั้นมีความจำเป็นหรือไม่

“ผู้บริหารหน่วยงานรัฐต้องลงมาฟังชาวบ้านด้วยตัวเอง ไม่ใช่ให้บริษัทเอกชนที่จ้างไว้มาฟัง เพราะบริษัทเอกชนเขาก็ต้องทำตามนายทุนที่เป็นเจ้าของเงิน หากรัฐตั้งใจมาลงทุนแต่ชาวบ้านต่อต้านก็จะเสียเวลาเปล่าๆ ดิฉันอยากฝากไปยังผู้ที่จะเป็นรัฐบาลขอให้สำเหนียกว่าประชาชนเป็นใหญ่ในแผ่นดิน คุณจะเป็นรัฐบาลที่ไม่มีความสุข หากประชาชนไม่มีความสุข” น.ส.สุมล กล่าว
ประธานชมรมอนุรักษ์ธรรมชาติฯ กล่าวว่า กรณีโครงการก่อสร้างถนนมอเตอร์เวย์นั้น ได้มีการสอบถามชาวบ้านหลายครั้งแล้ว แต่ทุกครั้งชาวบ้านก็ไม่เห็นด้วย และเสนอให้ย้ายแนวก่อสร้าง แต่ไม่ได้รับการตอบสนองแถมทางการยังยืนยันจะสร้างตามแนวเส้นทางที่มีปัญหาอยู่อีก หากราชการยังดันทุรังก็อาจต้องนำเรื่องขึ้นสู่ศาล ขณะที่ชาวบ้านบอกส่วนบอกว่าจะถวายฎีกา
“เพชรบุรีเป็นเมืองที่มีต้นทุนสูงแห่งหนึ่งของประเทศไทย มีองค์ประกอบต่างๆ พร้อม ทั้งทะเล ภูเขา วังและแหล่งเกษตรกรรม เพราะฉะนั้นรัฐบาลไม่ควรเอาเรื่องหนักๆ ที่ไม่ใช่วิถีชีวิตของคนเมืองเพชรมาใส่ เพราะจะสร้างความเดือดร้อนให้มากกว่า” น.ส.สุมล กล่าว
ขณะที่ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ที่บ้านหนองแก ต.ไร่สะท้อน อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ดงตาลใหญ่และเป็นแหล่งอาชีพของชาวบ้าน โดยกรมทางหลวงได้นำป้ายขนาดใหญ่ไปติดไว้ริมถนนซึ่งเป็นแนวเส้นทางที่มอเตอร์เวย์จะตัดผ่านและชาวบ้านคัดค้าน ทั้งนี้นายชาญวิทย์ นิลสุข ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบกล่าวว่า ตนมีที่นาอยู่ 3 ไร่ซึ่งเป็นมรดกตกทอดและปัจจุบันยังเป็นโฉนดอำแดงที่ยังไม่ได้แบ่งกับญาติพี่น้อง โดยเมื่อเร็วๆ นี้ได้มีเจ้าหน้าที่ของบริษัทเอกชนเข้ามาปักหลักและหมุดในที่นาของตนโดยไม่ได้แจ้งให้ทราบใดๆ ซึ่งหากถนนมอเตอร์เวย์ตัดผ่านจะทำให้ที่น่าของตนเหลืออยู่ไม่กี่วาและไม่สามารถทำกินอะไรได้
“ผมรู้สึกเสียดายดงตาลมาก ทุกวันนี้ผมยังปีนตาล เพราะมันเป็นอาชีพหนึ่งที่เพิ่มรายได้ให้พวกเรา ต้นตาลแต่ละต้นอายุเกือบร้อยปี บางต้นสูงมากแต่ให้ผลผลิตดี ถ้าถนนมาหมดเกลี้ยงแน่ เราพยายามคัดค้านไปหลายรอบ แต่เขาก็ไม่ฟัง” นายชาญวิทย์ กล่าว