
เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2562 ชาวบ้านในนามกลุ่มสตรีและเด็กที่เดือดร้อนจากการสร้างอ่างเก็บน้ำลำพะยา อ.เมือง จ.ยะลา ได้ทำหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อขอความเป็นธรรมให้ยุติโครงการอ่างเก็บน้ำลำพะยาโดยในหนังสือระบุว่า โครงการอ่างเก็บน้ำลำพะยาโดยกรมชลประทานจะสร้างอ่างเก็บน้ำที่อ.เมือง จ.ยะลา ซึ่งได้มีความพยายามกดดันทุกวิถีทางให้ชาวบ้านจำยอมให้รังวัดที่ดินในเขตพื้นที่ 1,500 ไร่ซึ่งประกอบด้วยที่อยู่อาศัย พื้นที่ประกอบอาชีพทำมาหากิน แปลงเกษตรที่มีความสมบูรณ์ทางด้านไม้ผลหลายชนิด เช่น ลองกอง มังคุด ลำแข เงาะ จำปาด่ะ สะตอ มะพร้าว ฯลฯ และเป็นพื้นที่สวนยางพาราจำนวนมาก ป่าไม้บริเวณนี้อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพืชผักสมุนไพรนานาชนิดที่งอกขึ้นเอง เป็นอาหารและเป็นยาให้กับชาวบ้าน เป็นแหล่งเรียนรู้หุบเขาธรรมชาติลำพะยาที่เด็กและเยาวชนเข้ามาศึกษาวิจัยต่างๆ ทั้งในและพื้นที่ใกล้เคียง พืชที่หายากเช่น เฟิร์น ไลเคน และสาหร่ายซึ่งเกาะตามโขดหิน ต้นไม้ใหญ่เกิน 100 ปี มีตาน้ำที่ไหลออกจากพื้นดินและโคนไม้ใหญ่ มีนกและสัตว์ป่ามากมาย มีลำธารให้เด็กและเยาวชนศึกษาเรียนรู้โดยเจ้าของพื้นที่เป็นไทยพุทธและมุสลิมใช้พื้นที่ร่วมกันมาช้านาน

นางละม้ายกล่าวว่า ในหนังสือยังระบุว่า นอกจากทรัพยากรธรรมชาติที่ทรงคุณค่าและควรเก็บไว้ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา วิจัยและพัฒนา พื้นที่แห่งนี้ยังมีสุสานจีนเก่าแก่ที่ฝังศพบรรพชนหลายรุ่น อันเป็นความรักความผูกพันธ์ต่อแผ่นดินบ้านเกิดและชนรุ่นหลัง ซึ่งสุสานนี้ก็จะจมลงสู่งเบื้องล่างของอ่างเก็บน้ำด้วย ที่อยู่อาศัยของคนไทยทั้งไทยพุทธและจีนจะจมลงใต้อ่างเก็บน้ำ นำความเดือนร้อนถึงที่สุดหลายครอบครัว ซึ่งปัจจุบันก็กระทบกับสถานการณ์ชายแดนใต้และเกิดความหวาดกลัวที่ต้องย้ายถิ่นฐานไปอยู่ที่อื่นที่รัฐจัดให้ หรือต้องไปซื้อที่ดินใหม่ โดยการนี้ พวกเราเด็กและสตรีในจังหวัดชายแดนใต้ทราบปัญหาในความกรุณาของท่าน จึงขอความเมตตาหยุดโครงการนี้โดยเร็ว ซึ่งเราพยายามขอให้หยุดโครงการนี้มา 15 ปีแล้ว