เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาชาวเลที่อาศัยอยู่บนเกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล มากกว่า 500 คนได้ทยอยกันเดินทางมายังท่าเรือปากบารา อ.ละงู จ.สตูล เพื่อเปิดบัญชีธนาคารเป็นครั้งแรก เนื่องจากมีความหวังในมาตรการช่วยเหลือเยียวยาของรัฐบาลสำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด ซึ่งมาตรการต่างๆ เหล่านั้นต้องโอนเงินผ่านระบบธนาคาร แต่ชาวเลเกือบทั้งหมดแทบไม่เคยมีสมุดบัญชีธนาคารมาก่อน
โดยทั้งหมดได้ขนอุปกรณ์ทำครัว เช่น เตา กระทะ รวมทั้งข้าวปลาอาหาร มาทำกิน เพราะต้องปักหลักอยู่หลายวันเนื่องจากธนาคารแต่ละแห่งต่างจำกัดการให้บริการเพียงวันละ 50 คิว/ราย เท่านั้น
ครูแสงโสม หาญทะเล ชาวเลเกาะหลีเป๊ะ กล่าวว่า ชาวบ้านบนเกาะหลีเป๊ะ กำลังเดือดร้อน เนื่องจากไม่มีรายได้ หลังจากที่นักท่องเที่ยวเป็นศูนย์ คนที่เคยรับจ้างทำความสะอาดและพานักท่องเที่ยวไปดำน้ำต่างก็ตกงาน ขณะที่เรือหาปลา เมื่อหาปลาได้ก็กลับขายไม่ได้เพราะไม่มีที่ขาย บางส่วนที่มีอาชีพดำปลิงทะเล ก็พบว่าเถ้าแก่ก็ไม่รับซื้อเพราะปิดประเทศทำให้ส่งขายไปยังมาเลเซียไม่ได้ ดังนั้นทุกคนจึงหวังจะได้รับเงิน 5,000 บาทจากมาตรการช่วยเหลือเยียวยา แม้จะไม่ทันลงทะเบียนแล้วก็ยังหวังว่าเขาจะเปิดอีก หรือแม้กระทั่งการลงทะเบียนเกษตรกร เพราะหลายคนก็มีอาชีพประมง
“พวกเราชาวเลส่วนใหญ่ไม่มีใครมีสมุดบัญชีธนาคาร แต่พอรัฐบาลประกาศรับลงทะเบียนช่วยเหลือเยียวยา แต่ต้องผ่านระบบธนาคาร ทำให้ชาวบ้านแห่กันขึ้นมาทำแต่ก็มีปัญหามาก เพราะเรามักไปจองคิวไม่ทัน เราไม่มีรถ กว่าจะเช่ารถได้ ไปถึงธนาคารคิวก็เกือบเต็ม บางคนไปถึงธนาคารตั้งแต่งตี 4 ยังไม่ได้คิวเลย ต้องรอคิวกันเรื่อยๆ บางคนได้คิวแล้ว แต่หลักฐานไม่ครบก็ต้องเริ่มใหม่ บางคนก็มีปัญหาเรื่องการสื่อสารเพราะไม่รู้หนังสือภาษาไทย เราต้องยกกันมาทั้งครอบครัว ลูกเด็กเล็กแดงมาหมด เพราะพ่อแม่ต้องมาทำ ลูกก็ไม่รู้จะอยู่กับใคร เรามาเช่าบ้านอยู่รวมกัน ข้าวปลาอาหารก็ต้องขนกันมาทำกินเพราะประหยัด” ครูแสงโสม กล่าว
ครูแสงโสมกล่าวว่า อยากให้ธนาคารแห่งประเทศไทย ประสานไปยังธนาคารพาณิชย์ต่างๆ ในการเดินทางไปให้บริการที่เกาะหลีเป๊ะ เพราะการที่ชาวเลต้องเดินทางมายังฝั่งนั้นเกิดความยากลำบากเป็นอย่างมาก เพราะต้องหาเงินมาจ่ายค่าน้ำมันเรือโดยต้องใช้เวลาเดินทาง 3-4 ชั่วโมง เมื่อมาจอดเรือไว้ที่ปากบารา ก็ต้องคอยเฝ้า เพราะเป็นเรือต่างพื้นที่ โดยในช่วงนี้มีเรือโดยสารสปีดโบทระหว่างปากบารา-หลีเป๊ะเพียงสัปดาห์ละ 1 เที่ยวและมักจะเต็ม
“ไหนจะมีปัญหาเรืองพาหนะเดินทางไปธนาคาร กว่าจะเช่ารถได้ก็ไปถึงช้ากว่าคนในเมือง ช่วงนี้พวกเราวิกฤตมาก เราต้องขึ้นมากันหมดจนเป็นเกาะแทบร้าง แม้แต่เงินของกลุ่มออมทรัพย์ก็ต้องถอนเงินเพื่อช่วยเหลือสมาชิกก่อน แต่ตอนนี้ก็ยังถอนไม่ได้เพราะคิวเต็มหมด” ครูแสงโสม กล่าว
////////////////////////