ผมมีโอกาสไปดูบรรยากาศการเลือกตั้งกัมพูชา ที่เมืองเสียมราฐ และพนมเปญ ก่อนศึกเลือกตั้ง 4 วัน
นักวิชาการ เอ็นจีโอ ปัญญาชน คนชั้นกลางใน 2 เมืองต่างเชื่อมั่นว่า การที่ “สม รังสี” ผู้นำพรรคฝ่ายค้านกลับมานำพรรคสงเคราะห์ชาติ (CNRP) จะทำให้การเมืองกัมพูชาเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น
ถึงไม่ชนะขาดลอย แต่จะช่วยถ่วงดุลอำนาจ “ฮุน เซน” ได้ไม่มากก็น้อย
มีนิมิตหลายเรื่องบ่งชี้เช่นนั้น นับตั้งแต่วันที่เขาเดินทางกลับมาตุภูมิ
มี พยานยืนยันพร้อมด้วยภาพถ่ายว่า วันนั้น มีประชาชนกัมพูชานับแสนๆ คนแห่ไปต้อนรับ ภาพคลื่นมหาประชาชนเคลื่อนไหลตามรถนำขบวนจากสนามบินไปตัวเมืองพนมเปญยาว เหยียดหลายกิโลเมตร
ต่อด้วยผลสำรวจความนิยมของสถานบันไออาร์ไอ (International Republican Institute) ซึ่งเป็นหน่วยงานอิสระ พบว่าผู้มีสิทธิเลือกตั้งสนับสนุน CNRP สูงถึง 60% ขณะที่พรรคประชาชนกัมพูชา (CPP) ของ “ฮุน เซน” ได้ 40%
ทั้งสองเรื่องแทบไม่เป็นข่าวออกทีวีรัฐบาล จะมีเฉพาะในสื่อต่างชาติและสื่อออนไลน์เท่านั้น
นินทา ทั่วพนมเปญว่า เรื่องทั้งสองเขย่าขวัญ “ฮุน เซน” จนถึงขนาดไฟเขียวให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กัมพูชา ตัดสิทธิคู่แข่งตัวเอ้ลงสมัคร ส.ส.ในช่วงโค้งสุดท้าย
แต่ขอโทษที คะแนนความนิยมของ CNRP กลับไม่วูบลงอย่างที่เขาคาดหวัง ขนาดนัดปราศัยส่งท้าย 26 กรกฎาคมที่พนมเปญ มีคนนับแสนๆ ออกมาเชียร์ CNRP
“ฮุน เซน” จะครองอำนาจเบ็ดเสร็จต่อได้ด้วยวิธีเดียว คือใช้เครือข่ายอำนาจรัฐทำทุกวิถีทางให้ชนะเลือกตั้งแบบขาดลอย
กลิ่นตุกติกโชยมาเป็นสัปดาห์แล้ว จากปากคำของ “ดร.คล ปันยา” ประธานคณะกรรมการเพื่อการเลือกตั้งอย่างเสรีและยุติธรรม (Committee for Free and Fair Election in Cambodia หรือ Comfrel) เจ้าของรางวัลแมกไซไซ ปี 2011 ยอมรับกับคณะสื่อไทยว่า มีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งในพนมเปญมีปัญหาถึง 1.3 ล้านคน และมีแนวโน้มว่าจะมีผู้อื่นนำไปสวมสิทธิ
เขาเล่าถึงสภาพการแข่งขัน ที่ไม่เป็นธรรมว่า พรรครัฐบาลใช้สื่อรัฐอย่างเต็มที่ ใช้ทีวีเป็นเวทีโจมตี CNRP ในทางลบตลอด “สม รังสี” โดนป้ายสีหนัก ส่วนข้อมูลที่เป็นจริงและสาระในนโยบายของคู่แข่งกลับไม่ถูกเผยแพร่
เราถามเขาว่า ถ้าพบกลโกงอย่างมโหฬาร แต่ กกต.เพิกเฉยไม่ยับยั้งผลเลือกตั้ง Comfrel จะทำอย่างไร
แมก ไซไซปี 2011 ระบุว่า Comfrel จัดตั้งวอร์รูม ดึงภาคส่วนต่างๆ โดยเฉพาะเอ็นจีโอเข้าเป็นพันธมิตร หากพบการเลือกตั้งที่ไม่เป็นธรรมก็พร้อมจะเปิดเผยข้อมูลให้สังคมโลกพิจารณา ว่าสมควรยอมรับรัฐบาลกัมพูชาที่มาด้วยวิธีการดังกล่าวหรือไม่
ถึงวันนี้ การเลือกตั้งผ่านไปแล้ว 2 วัน กว่าจะนับคะแนนในพื้นที่ และส่งหีบส่งผลกลับมาส่วนกลาง ต้องใช้เวลานานร่วมเดือน จึงจะรู้ผล
แต่ “สน ชัย” ประธาน ส.ส.พรรค CNRP และโฆษกพรรคเชื่อในปาฏิหาริย์ว่า พวกเขาจะกวาดคะแนนถล่มทลายจนกลโกงทุกรูปแบบมิอาจเอาชนะได้
“ปัจจุบัน ประชาชนไม่ได้หวาดกลัวเหมือนแต่ก่อน เยาวชนตื่นตัวต่อต้านอำนาจฮุน เซน ประชาชนรู้ดีว่านับแต่ฮุน เซน ปกครองเขมรมาแล้ว 30 ปีเป็นอย่างไร คนรอบข้างเขามีแต่คนรวย เพราะขูดรีดเอาจากประชาชน เราจะเอาเงินส่วนนี้กลับคืนมาพัฒนาประเทศ…เขาติดหนี้บุญคุณเวียดนามเยอะจน ใช้ไม่หมดเสียที ประชาชนรู้ว่าวันนี้ควรพอได้แล้ว” เขากล่าวก่อนเลือกตั้งไม่กี่วัน
อย่างไรก็ตาม ความเชื่อของโฆษก CNRP ดูจะมีน้ำหนักน้อยกว่าการวิเคราะห์จากข้อมูลและข้อเท็จจริงโดยนักวิชาการ ปัญญาชน และเอ็นจีโอ
ฝ่ายหลังมั่นใจว่า ไม่ว่ากลโกงทั้งก่อนหรือหลังการเลือกตั้งถูกเปิดโปงจนล่อนจ้อนฉาวโฉ่ไปทั่วโลกอย่างไร
มันจะไม่มีปาฏิหาริย์ในกัมพูชา ที่นี่จะอยู่ภายใต้อำนาจ “ฮุน เซน” เผด็จการในเสื้อคลุมประชาธิปไตยเหมือนเดิม
– – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – –
โดย ภาคภูมิ ป้องภัย คอลัมน์ โลกนี้มีรากหญ้า/มติชน