
เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2564 สำนักข่าวอิรวดีของพม่า รายงานว่าฐานทหารพม่าอย่างน้อย 3 แห่ง ในเขตเมืองเดโมโส่ รัฐคะยา หรือคะเรนนี ถูกยึด โจมตี และเผาทำลายโดยกองกำลังปกป้องประชาชน People’s Defense Force โดยการโจมตีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม หลังจากมีเหตุการณ์ที่ทหารพม่าเข้ามาบุกค้นบ้านเรือนและจับกุมประชาชนจำนวนอย่างน้อย 4 คน รวมถึงข้าราชการอีก 4 คน ในงานศพเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม
ทั้งนี้เหตุการณ์ดังกล่าว เป็นการสนธิกำลังระหว่างกองกำลังประชาชนคะเรนนี KPDF และกองทัพคะเรนนี Karenni Army ซึ่งเป็นหน่วยงานทหารของพรรคก้าวหน้าแห่งชาติคะเรนนี Karenni National Progressive Party (KNPP) ที่เข้าบุกยึดด่านตรวจและฐานของทหารพม่า ในเมืองเดโมโส่ และบอลาเค ในรัฐคะยา (รัฐคะเรนนี)
สำนักข่าวอิวรวดีอ้างหนังสือพิมพ์ของรัฐว่า มีเจ้าหน้าที่ทหารพม่าอย่างน้อย 2 นายเสียชีวิต และมีกองกำลังปกป้องประชาชนถูกจับกุมไป 15 ราย และเสียชีวิตระหว่างการจับกุม 2 ราย ซึ่ง กองกำลังปกป้องประชาชนคะยา ระบุว่าทหารพม่าใช้อาวุธหนักโจมตีและส่งกำลังทหารหลายร้อยนายมาเสริมกำลังหลังการปะทะดังกล่าว
ทางด้านแม่น้ำสาละวิน พรมแดนไทยพม่า ที่ต.แม่คง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน มีรายงานว่า ฐานทหารพม่าบ้านจอท่า ตรงข้ามผาแดง เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสาละวิน มีทหารพม่าเสริมกำลังเพิ่มเข้ามา โดยเดินทางมาจากรอยต่อรัฐคะเรนนีและรัฐกะเหรี่ยง มาทางแม่น้ำสาละวินโดยเรือเร็ว 4 ลำ เรือบรรทุกขนาดใหญ่ (คูโบต้า) 1 ลำ ขณะนี้มีทหารพม่าเสริมกำลังมาที่ฐานพอ ซู ท่า ( โนซูท่า) 50 คน และตรงข้ามดอยผาแดง 50 คน
หน่วยบรรเทาทุกข์ในพื้นที่ รายงานว่าเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม มีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานความมั่นคงของไทยเข้ามาในพื้นที่ บ้านแม่นึท่า เพื่อเจรจาการผลักดันกลับผู้หนีภัยสงครามจากรัฐกะเหรี่ยง ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ขีดเส้นตายให้ออกไปภายในที่ 24 พฤภาคม ทางชาวกะเหรี่ยงแจ้งว่าปัจจุบันขออาศัยแผ่นดินไทยเป็นการชั่วคราวเพื่อความปลอดภัย โดยเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์กะเหรี่ยงกล่าวว่าเจ้าหน้าที่ไทยได้แจ้งให้ประชาชนเดินทางกลับ แต่หน่วยงานบรรเทาทุกข์ขอผ่อนผันให้เด็กและผู้สูงอายุยังคงอาศัยอยู่ก่อน เนื่องจากความจำเป็น และเจ้าหน้าที่ไทยได้นับจำนวนประชาชนผู้หนีภัยทั้งหมดด้วยตนเอง
ขณะที่ศูนย์สั่งการชายแดนไทย-พม่าด้านจังหวัดแม่ฮ่องสอน แถลงข่าวประจำวันโดยระบุว่า ยอดผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมามีอยู่จำนวน 1,569 คนโดยส่วนใหญ่มีความต้องการเดินทางกลับภูมิลำเนาเพราะต้องการกลับไปหาเลี้ยงชีพ ส่วนราษฏรไทยบ้านท่าตาฝั่งที่อพยพออกจากพื้นที่เพื่อหลบภัยอยู่ท่ห้วยแม่กองคา 159 คน นายอำเภอแม่สะเรียงพร้อมคณะได้เข้าไปเยี่ยมเยียนให้กำลังใจ รวมทั้งให้ความช่วยเหลือด้านต่างๆ
อนึ่ง เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2564 ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวกรณีที่มีข่าวว่าจะผลักดันผู้หนีภัยจากการสู้รบกลับฝั่งพม่าว่า ไม่มีการผลักดันผู้หนีภัยจากการสู้รบที่อพยพเข้ามาพักพิงริมแม่น้ำสาละวินฝั่งไทยกลับเพื่อมนุษยธรรม