เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2564 สำนักข่าววิทยุเอเชียเสรี รายงานว่า แรงงานลาวนับร้อยคนทำงานก่อสร้างเส้นทางรถไฟความเร็วสูงลาว-จีน ในลาวยังไม่ได้รับเงินค่าจ้างเกือบ 2 เดือนแล้ว จนหัวหน้าคนงานลาวต้องทำการตัดไฟฟ้าของพื้นที่ก่อสร้าง นายจ้างคนจีนจึงยอมจ่ายเงินค่าแรงให้กับแรงงานประมาณ 20 คน แต่ส่วนที่เหลือยังไม่ได้รับ โดยแรงงานเหล่านี้ทำงานใน 2 หมู่บ้าน ซึ่งเป็นไซต์งานก่อสร้างในแขวงเวียงจันทน์ให้กับบริษัทจีนหลายแห่งที่มารับเหมาช่วงต่อ โดยนายจ้างเคยแจ้งว่า พวกเขาจะได้รับค่าจ้างทุกสิ้นเดือน แต่พบว่า พวกเขาจ่ายเงินล่าช้ากว่านั้น
“เราทำงานของเราเสร็จแล้ว แต่นายจ้างชาวจีนไม่ยอมจ่ายเงินให้ เราไม่ได้รับเงินค่าจ้างตั้งแต่เดือนที่แล้ว ตอนนี้เราไม่มีเงินซื้ออาหาร เรามาจากหลวงพระบาง มาทำงานที่นี่ได้ 4 เดือนแล้ว” แรงงานที่ทำงานอยู่บ้านดงโพนแห เมืองหาดทรายฟอง แขวงเวียงจันทน์ กล่าว
“ผมมาทำงานได้เกือบเดือนแล้ว แต่ยังไม่ได้รับเงินค่าจ้างเลย ส่วนเพื่อนผมไม่ได้รับเงินมาสองเดือนแล้ว เขามีแต่พูดว่า พรุ่งนี้ได้ ถ้าได้รับเงินค่าจ้างแล้ว พวกเราจะกลับบ้านที่อุดมไซ และคงไม่กลับมาทำงานอีกแล้ว”แรงงานกล่าว
ด้านหัวหน้าแรงงานกลุ่มหนึ่งที่พื้นที่ไซต์งานบ้านดงโพนแห กล่าวว่า เขามีแรงงานอยู่กว่า 100 คน โดยคนงานได้รับเงินค่าจ้าง เดือนละ 3,000-6,000 บาท บริษัทยังติดค่าจ้างร่วมกว่า 300,000 บาท ที่ทำงานในเดือนสิงหาคม -และครึ่งเดือนแรกของเดือนกันยายน
ขณะที่กลุ่มแรงงานจากจากไซต์บ้านดงโพสี ไม่ได้รับค่าจ้างเกือบ 2 เดือนแล้ว โดยบริษัทรับเหมาช่วงต่อของจีนเช่นเดียวกัน
“พวกเราหลายคนเดินทางกลับบ้านไปแล้ว แต่คนอื่น ๆ ก็ยังรอค่าจ้างของพวกเขา นายจ้างไม่เคยมาให้เห็นหน้าเลย และเขาก็ไม่บอกเหตุผลว่าทำไมถึงไม่จ่ายเงินค่าจ้าง เพื่อนบางคนมีรายได้ประมาณเกือบหนึ่งหมื่นบาท แต่ก็ยังไม่ได้รับเงิน และไปไหนไม่ได้เนื่องจากไม่มีแม้เงินค่าเดินทาง” แรงงานอีกรายหนึ่งกล่าว
อย่างไรก็ตาม มีข้อพิพาทระหว่างแรงงานและบริษัทรับเหมาช่วงต่อของจีนนั้น แรงงานรายหนึ่งกล่าวว่า นายจ้างคนจีนกับแรงงานลาวมักจะมีข้อพิพาทกันว่า นายจ้างชาวจีนมักจะร้องเรียนต่อหน่วยงานท้องถิ่นว่า แรงงานทำงานไม่เสร็จตามที่วางแผนไว้ พวกเขาจะไม่จ่ายเงินจนกว่างานจะเสร็จสมบูรณ์ ขณะที่แรงงานบางรายให้เหตุผลว่า ทำงานเสร็จไม่ได้ เนื่องจากเกิดฝนตกหนัก ด้านหัวหน้าคนงานกล่าวว่า แรงงานไม่ได้ให้ความสำคัญกับงาน บางคนแอบหลับ และมีการลักขโมยในพื้นที่ก่อสร้าง นายจ้างจึงตัดค่าจ้างและบางครั้งก็แจ้งตำรวจ
ผู้เชี่ยวชาญแรงงานที่ไม่ประสงค์จะออกนาม กล่าวว่า แรงงานลาวควรจะต้องยืนยันการเรียกร้องให้มีการจ่ายค่าจ้างให้กับพวกเขาอย่างจริงจัง และมีสิทธิในการฟ้องร้องถึงศาล ในอนาคตจะต้องมีการทำสัญญาที่ชัดเจนว่า ระบุจำนวนค่าจ้างที่จะได้รับ
โดยลูกจ้างของบริษัทจีนรายหนึ่งกล่าวว่า ถ้าไม่มีสัญญาจ้างงาน ก็ยากที่จะฟ้องร้องนายจ้าง ขณะนี้ทางกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม ยังไม่ได้รับเรื่องร้องเรียนดังกล่าว จึงยังไม่สามารถจะเข้าไปแก้ไขปัญหาได้ และเสนอให้แรงงานทำเรื่องร้องเรียนมาอย่างเป็นทางการ
ทั้งนี้โครงการก่อสร้างทางรถไฟความเร็วสูงลาว-จีน มูลค่ากว่า 5.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ เริ่มขึ้นเมื่อเดือนธันวาคม 2560 เพื่อเป็นเส้นทางการขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภคมายังสปป.ลาว มีระยะทาง 260 ไมล์ เชื่อมระหว่างแขวงหลวงน้ำทา-แขวงเวียงจันทน์ ภายใต้นโยบายหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของจีน ความคืบหน้าประมาณ 94 % แล้ว