เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2564 สื่อมวลชนในประเทศพม่าหลายสำนักรายงานว่า เกิดการสู้รบระหว่างกองทัพพม่ากับ KNLA (Karen National Liberation Army) ซึ่งเป็นหน่วยงานทางทหารของสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (Karen National Union- KNU)ที่หมู่บ้านเลเก่ก่อ ในเมืองเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ซึ่งตรงข้ามกับ อำเภอแม่สอด จ.ตาก ทำให้ชาวบ้านกว่า 3,000 คนจากหมู่บ้านเลเก่ก่อและหมู่บ้านใกล้เคียงต้องหลบหนีออกจากบ้านกลายเป็นคนพลัดถิ่น
ทั้งนี้การต่อสู้ปะทุขึ้นในเช้าวันที่ 15 ธันวาคม โดยกองทัพพม่าได้ยิงกระสุนปืนใหญ่ประมาณ 20 นัดเข้าไปในพื้นที่ที่ของ KNUเนื่องจากสันนิษฐานว่าสมาชิกของกองกำลังพิทักษ์ประชาชน (PDF) ประจำการอยู่ ทำให้ชาวบ้านกว่า 3,000 คนจากหมู่บ้านเลเก่ก่อ (Lay Kay Kaw) และหมู่บ้านใกล้เคียงต้องพลัดถิ่น ทำให้ความตึงเครียดทางทหารสูงและคาดว่าจำนวนผู้ลี้ภัยจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีการยิงกันระหว่างทั้งสองฝ่ายอย่างน้อย 3 แห่งและยังคงมีการปะทะกันอย่างต่อเนื่อง
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม เกิดความตึงเครียดเพิ่มขึ้นหลังจากกองทัพจับกุมประชาชนประมาณ 60 คน ได้แก่ สมาชิกของพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ผู้ที่สนับสนุนประชาธิปไตย และข้าราชการที่หยุดงานเพื่อทำอารยขัดขืน (CDM)
นายซอต่อนี (Padoh Saw Taw Nee) หัวหน้า KNU’s foreign affairs department กล่าวว่า การโจมตีของกองทัพที่เกิดขึ้นในเมืองเลเก่ก่อนั้น ไม่สามารถยอมรับได้
“กองทัพพม่าได้ละเมิดกฎมนุษยธรรมอย่างโจ่งแจ้ง พวกเขาต้องเคารพความจริงที่ว่าเรากำลังช่วยเหลือผู้ที่มีปัญหา ไม่ว่าจะฝ่ายใดก็ควรจะปฏิบัติตามกฎ” เขากล่าว
ตามรายงานของสมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมืองที่ตั้งสำนักงานอยู่ในกรุงเทพฯ รายงานว่ารัฐบาลทหารพม่าจับกุมพลเรือนมากกว่า 8,000 คน และสังหาร 1,343 คนนับตั้งแต่รัฐประหารเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ส่วนใหญ่อยู่ในการประท้วงอย่างไม่รุนแรงเกี่ยวกับรัฐประหาร
ทั้งนี้เมืองใหม่ “เลเก่ก่อ” ได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิ Nippon Foundation ของญี่ปุ่น ก่อตั้งขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2558 เพื่อเป็นที่พักพิงให้กับผู้ลี้ภัยที่กลับมาจากประเทศไทยและผู้พลัดถิ่นภายในตามแนวชายแดน หลังจากที่ KNU ได้ลงนามในข้อตกลงสันติภาพระดับสหภาพกับรัฐบาลของเตงเส่งเมื่อหลายปีก่อน ผู้คนกว่า 3,000 คนจาก 786 ครอบครัวได้ย้ายมาที่เมืองนี้ ซึ่งควบคุมโดยกองพันที่ 6 ของ KNLA และตั้งอยู่ทางใต้ของเมืองชายแดนเมียวดี 15 กม. และเป็นสมรภูมิรบระหว่างกองทัพพม่ากับ KNU มาหลายปี
ผู้สังเกตการณ์กลุ่มชาติพันธุ์คนหนึ่ง กล่าวว่า กองทัพต้องการกดดัน KNU และพยายามตั้งรกรากในเลเก่ก่อ และคาดว่าการต่อสู้จะเข้มข้นขึ้น
ด้านจังหวัดตากได้รับรายงานจากอำเภอแม่สอดว่า ในวันเดียวกันนี้ เวลา 10.00 น. ได้มีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา และคนไทยหลบหนีการสู้รบจากประเทศเมียนมา ประมาณ 200 คนข้ามมาฝั่งประเทศไทย บริเวณคอกวัวกำนันปั๋น บ้านดอนไชย หมู่ที่ 6 บ้านดอนไชย ตำบลแม่ตาวอำเภอแม่สอดจังหวัดตาก เนื่องจากสถานการณ์ปะทะกันในฝั่งประเทศเมียนมาร์ และได้ทยอยข้ามฝั่งไทยถึงเวลา 11.00 น.รวมประมาณ 400 คน ทั้งนี้นายสมชัย กิจเจริญรุ่งโรจน์ รอง ผวจ.ตาก ได้สั่งการให้อำเภอแม่สอด และหน่วยมั่นคงเข้าควบคุมดูแล ให้เป็นไปตามแนวทาง สมช. และมาตรการป้องกัน โควิด
——–
แปลและเรียบเรียงข่าวจาก
https://www.rfa.org/burmese/news/knla-army-fighting-in-karen-state-12152021013628.html
https://www.rfa.org/english/news/myanmar/clashes-12152021223527.html
လေးကေ့ကော်မြို့တွင်းမှ စစ်ကောင်စီတပ်များဆုတ်ခွာသွားပြီးနောက် ကေအန်ယူက နယ်မြေရှင်းလင်း
https://www.nmg-news.net/2021/12/15/16884