เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2565 นายคูแดเนียล เลขาธิการพรรคก้าวหน้าแห่งชาติคะเรนนี (Karenni National Progressive Party-KNPP) ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวชายขอบถึงสถานการณ์การสู้รบภายหลังจากที่กองทัพพม่าบุกโจมตีทั้งทางอากาศและภาคพื้นดินว่า ในวันเดียวกันนี้ยังมีเฮลิคอปเตอร์และเครื่องบินตรวจการมาบินวนในหลายพื้นที่ของรัฐคะเรนนี แต่มีการทิ้งระเบิด 1 แห่ง คือเขตเมืองชาด่อ ซึ่งห่างจากชายแดนไทยด้านอำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ประมาณ 20 กิโลเมตร ส่วนสถานการณ์ของชาวบ้านนั้น ตอนนี้คนที่อยู่ด้านในรัฐคะเรนนีค่อนข้างลำบาก ส่วนบริเวณชายแดนยังพอมีช่องทางที่จะนำส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์ได้แต่ช่องทางการส่งค่อนข้างลำบากเช่นกัน โดยเวลานี้ประชาชนในรัฐคะเรนนีตกอยู่ในสถานการณ์ที่ตึงเครียดมาก
ขณะที่เพจ Mercury Media สื่อออนไลน์ของพม่า รายงานว่าการต่อสู้ระหว่างกองทัพพม่ากับกองทัพแห่งชาติคะเรนนี (KA) และกองกำลังป้องกันแห่งชาติคะเรนนี (Karenni Nationalities Defense Force :KNDF) ได้ทวีความรุนแรงขึ้นในเมืองลอยก่อ รัฐกะยา ตั้งแต่วันที่ 6 มกราคมโดยเมื่อเวลาประมาณเที่ยงของวันที่ 8 มกราคม ชาวบ้านประมาณ 20,000 คนต้องพลัดถิ่นจากการโจมตีเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพพม่าใกล้กับเมืองลอยก่อ
“การปะทะดังกล่าว ทำให้ชาวบ้านประมาณ 20,000 จากหมู่บ้านหยั่วตานเฉ่ หมู่บ้านปานกาน รวมทั้งเขตไมล์โลง ต้องหนีภัยสงครามไปยังที่ปลอดภัย และมีชาวบ้านบางส่วนยังติดอยู่ในหมู่บ้าน”
ทั้งนี้ KNDF ได้เรียกร้องให้ประชาชนอพยพไปยังที่ปลอดภัยโดยเร็วที่สุดเพื่อความปลอดภัยของตนเอง เนื่องจากสงครามกลางเมืองได้แพร่กระจายไปยังเมืองลอยก่อแล้ว โดยการต่อสู้ได้ทวีความรุนแรงขึ้น ทำให้จำนวนผู้ลี้ภัยทั้งหมดในรัฐมีมากกว่า 150,000 คน
ทางด้านสำนักข่าว DVB รายงานว่า ประชาชนนับหมื่นคนจากหมู่บ้านไมล์โลง เมืองลอยก่อ รัฐคะเรนนี รวมถึงหมู่บ้านใกล้เคียงหลบหนีไปยังดีมอโซ เนื่องจากการต่อสู้ระหว่างกองกำลังป้องกันประชาชนในพื้นที่และกองทัพพม่าที่กำลังต่อสู้กันอย่างรุนแรง
เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือผู้ลี้ภัยกล่าวว่า “มีคนประมาณ 1,900 คนหนีภัยสงครามจากฝั่งไมล์โลงไปยังหมู่บ้านนานแหม่โข่งและหมู่บ้านโอ่เก่ทางฝั่งดีมอโซ และคนอีกนับหมื่นได้หนีไปยังหมู่บ้านอื่นของดีมอโซ”
ผู้ลี้ภัยรายหนึ่งกล่าวว่า “ทหารพม่ายิงปืนใส่ประชาชนมือเปล่า และพวกเขายังทิ้งระเบิดด้วยเครื่องบิน ประชาชนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต” โดยมีประชาชนผู้บริสุทธิ์อย่างน้อย 6 คนเสียชีวิตจากการยิงของกองทัพพม่าที่โจมตีในไมล์โลง เมืองลอยก่อ
ขณะเดียวกันพรรคก้าวหน้าแห่งชาติคะเรนนี ได้ออกแถลงการณ์กรณีที่กองทัพพม่าโจมตีรัฐคะเรนนี (Statement on Burmese Military Junta’s Intensified Offensive in Karenni State) ลงวันที่ 8 มกราคม 2565 มีเนื้อหาระบุว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา กองทัพพม่าได้เพิ่มความรุนแรงในการโจมตีทางการทหาร โดยมีการใช้อากาศยานรบ รถถัง และปืนใหญ่ ในหลายเมืองสำคัญของรัฐคะเรนนี อาทิ ลอยก่อ เดมอโส่ พรูโส่ และชาด่อ
แถลงการณ์ระบุว่า การโจมตีที่เมืองลอยก่อในวันที่ 7 มกราคม ได้คร่าชีวิตประชาชนผู้บริสุทธิ์อย่างน้อย 6 ราย และปิดล้อมประชาชนหลายร้อยคนตลอดทั้งวันจนต้องมีปฏิบัติการช่วยเหลือที่มีความเสี่ยงเป็นอย่างยิ่ง และนำไปสู่การเสียชีวิตของนักกู้ภัย ซึ่งการโจมตีโดยอากาศยาน ปืนใหญ่ และอาวุธหนักตลอดทั้งวันทั้งคืนเมื่อวันที่ 8 มกราคม ทำให้ประชาชนหลายพันคนต้องหนีออกจากเมืองลอยก่อเพื่อเอาชีวิตรอด ประชาชนหลายร้อยคนติดอยู่ในเมืองไมโลน นอกเมืองลอยก่อ
“ในขณะที่ออกแถลงการณ์ฉบับนี้ก็ยังมีการโจมตีโดยอากาศยานแม้เป็นเวลากลางคืน การโจมตีทางอากาศบริเวณพรมแดนไทยพม่า ทำให้ประชาชนอย่างน้อย 1,200 คน ซึ่งเป็นผู้พลัดถิ่นภายในประเทศ (IDPs) ต้องหนีมายังประเทศไทย ขณะที่อีก 200 คน ไม่สามารถข้ามมายังฝั่งไทยได้ KNPP มีความกังวลเป็นอย่างยิ่งที่กองทัพของเผด็จการทหารพม่าที่ใช้อากาศยานโจมตีประชาชนผู้บริสุทธิ์ เราจึงขอร้องอย่างจริงจังให้รัฐบาลนานาชาติและองค์กรระหว่างประเทศมีปฏิบัติการต่อรัฐบาลทหารพม่า และให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมตลอดจนปกป้องประชาชนที่กำลังถูกโจมตีอยู่ในขณะนี้”แถลงการณ์ ระบุ