หมายเหตุ-ข้อมูลนี้เป็นการสรุปสถานการณ์ละเมิดสิทธิมนุษยชนในรัฐคะเรนนีโดยจัดทำเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2565 โดยกลุ่มประชาสังคมคะเรนนี (Karenni Civil Society Network)
• การดำเนินการกวาดล้างโจมตีอย่างต่อเนื่องจากSAC (คณะรัฐประหารทหารพม่า) และการละเมิดต่างๆ รวมถึงการโจมตีทางอากาศที่เพิ่มขึ้นเหนือเมืองและหมู่บ้านจำนวนมาก
เมื่อวันที่ 3 มกราคม เสาส่งกระแสไฟฟ้า 2 แห่งที่เชื่อมต่อกับเมืองเนปิด่อ ใกล้กับถนนสายหลักที่มุ่งลงใต้จากเมืองโมแป ใกล้กับหมู่บ้านไห้กวี ถูกโค่นลงโดย KNDF B03
เมื่อวันที่ 4 มกราคม เวลาประมาณ 23.00 น. ทหารพม่าในเมืองแผ่โค่ง ได้ยิงปืนใหญ่ใส่บ้านของนางแมรี่นโย ซึ่งเป็นส.ส.พรรค NLD การโจมตีดังกล่าวทำให้บ้านได้รับความเสียหาย
วันเดียวกัน KA (กองทัพคะเรนนี-ฝ่ายทหารของKNPP) และ KNDF (กองกำลังพิทักษ์ตนเองแห่งชาติคะเรนนี) ปะทะกับ ทหารพม่า ในเมืองชาตอว์ ที่ทางแยกของหมู่บ้านตะรีดา และหมู่บ้านดอกะหล่อแล ตั้งแต่เวลา 16.00 น. ถึง 17.00 น. ชาวบ้านในบริเวณใกล้เคียงหนีไปเข้าไปในป่า
เมื่อวันที่ 5 มกราคม ทหารพม่า LIB 108 (ภายใต้ ID 66) ซึ่งได้สังหารหมู่ในโมโซ เมืองพรูโซ เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ.2564 ได้แปรพักตร์ไปเป็นกองกำลังป้องกันประชาชนดีมอโซ (ดีมอโซ PDF) และเข้าร่วมการทำ CDM
เมื่อวันที่ 6 มกราคม กองกำลังร่วมของ KNDF BO 2, BO 3 และ PDF (กองกำลังป้องกันประชาชน) ได้บุกโจมตีค่ายของทหารพม่าที่ทางแยกกะยานตะยา ในเมืองดีมอโซ ส่งผลให้ทหารพม่าเสียชีวิต 15 นาย รวมทั้งร้อยเอกสองนาย ตามคำแถลงของ KNDF BO 3
ในวันเดียวกัน กองกำลังร่วมของ KDF, KNDF และ GZ 21 Loikaw ได้ต่อสู้อย่างหนักกับทหารพม่า ในเขตมายโลงและปะกานของเมืองลอยก่อ ส่งผลให้มีทหารพม่าเสียชีวิตอย่างน้อย 8 นาย และบาดเจ็บจำนวนมาก ระหว่างการปะทะกัน บ้านของชาวบ้าน 8 หลังถูกไฟไหม้ และบ้านบางหลังในหมู่บ้าน 5 ไมล์ และ 6 ไมล์ ในเขตดีมอโซถูกเผาโดย SAC อีกทั้งการยิงกระสุนตามอำเภอใจของทหารพม่า ทำให้พลเรือนหนึ่งคนในเมืองดีมอโซ ได้รับบาดเจ็บ นอกจากนี้ระหว่างการระดมยิง ในเมืองลอยก่อ ชาวบ้านหนึ่งคนหมดสติเพราะช็อกและเสียชีวิต
เมื่อวันที่ 7 มกราคม การระดมยิงโดยทหารพม่าในเมืองลอยก่อ ทำให้พลเรือนวัย 30 ปีรายหนึ่งถูกยิงเสียชีวิต
วันเดียวกัน KA ได้โจมตีและยึดด่านหน้าของทหารพม่าที่นัตต่อง ซึ่งห่างจากชายแดนไทยประมาณ 5 กิโลเมตร ระหว่างการโจมตี ทหารพม่า 32 นายเสียชีวิตและถูกจับได้ 10 นาย ประมาณครึ่งชั่วโมงหลังการโจมตี ฝั่ง SAC ใช้การโจมตีทางอากาศเพื่อยึดฐานทัพกลับ ซึ่งทำให้ทหาร KA เสียชีวิต 2 นายและบาดเจ็บ 6 นาย นอกจากนี้ทหารพม่ายังใช้เครื่องบินเพื่อทิ้งระเบิดใส่ฐานทัพตะเลดูโซ (ญะโม) ซึ่งเป็นศูนย์บัญชาการของกองทัพคะเรนนีที่อยู่ทางเหนือของนัตต่อง การโจมตีทางอากาศอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ควบคุมของ KNPP เป็นเวลา 2 วัน ทำให้ผู้ลี้ภัย 800 คนในพื้นที่ ได้ลี้ภัยสงครามไปยังค่ายผู้ลี้ภัยคะเรนนี 1 ในประเทศไทย
ในวันเดียวกัน กองกำลังร่วมระหว่าง KA และ KNDF ปะทะกันอย่างหนักกับทหารพม่า ในเขตปะกานและมายโลงในเมืองลอยก่อ ส่งผลให้ทหารพม่าเสียชีวิต 4 นาย และบาดเจ็บจำนวนมาก ขณะที่ทหาร KNDF เสียชีวิต 1 นาย ตามคำแถลงของ KNDF ทหารพม่าได้เผาบ้านเรือน 18 หลังในหมู่บ้าน 5 ไมล์ 6 ไมล์ และหมู่บ้านดอโปซี ในเขตดีมอโซ ระหว่างการสู้รบอย่างหนักเมื่อวันที่ 6-7 มกราคม ในเมืองลอยก่อ ทหารพม่าได้ระดมยิงปืนตามอำเภอใจเข้าไปในพื้นที่พลเรือน ทำให้พลเรือนเสียชีวิตทั้งหมด 6 ราย และบาดเจ็บ 8 ราย บ้านบางหลังได้รับความเสียหาย
เมื่อวันที่ 8 มกราคม กองกำลังร่วม KA และ KNDF ต่อสู้อย่างหนักกับทหารพม่า ที่หมู่บ้าน 5 ไมล์ 6 ไมล์ และ หมู่บ้านดอโปซี ในดีมอโซ มายโลง และ ปะกาน ในเมืองลอยก่อ ทหารพม่าเสียชีวิต 30 นาย รวมทั้งร้อยโทหนึ่งนาย และได้รับบาดเจ็บอีกหลายนาย จากนั้นทหารพม่าได้ใช้เฮลิคอปเตอร์และรถถังเพื่อโจมตีกองกำลังร่วมคะเรนนี ระหว่างการสู้รบ ฝั่งคะเรนนียึดปืนได้ 11 กระบอก และได้ยิงเฮลิคอปเตอร์ของทหารพม่า 1 ลำ นอกจากนั้นทหารพม่ายังได้เผาบ้านเรือน 10 หลังใน 5 ไมล์ 6 ไมล์ และหมู่บ้านดอโปซี ในเมืองดีมอโซ ตามรายงานของ KNDF
เมื่อวันที่ 9 มกราคม ที่หมู่บ้าน 6 ไมล์ ในเมืองดีมอโซ ทหารพม่าได้ปะทะกับกองกำลังร่วมของ KA, KNDF และ KPDF ฝั่งทหารพม่าเสียชีวิตอย่างน้อย 10 นายและบาดเจ็บอีกหลายนาย กองกำลังร่วมคะเรนนียึดอาวุธบางชนิดของทหารพม่าได้ ตามคำแถลงของ KPDF
วันเดียวกัน ในตอนเช้า ที่ทางออกของเมืองลอยก่อ ใกล้หมู่บ้านนัวละโว ทหารพม่าได้ยิงและทำร้ายชาวบ้านที่พยายามหนีจากลอยก่อไปยังรัฐฉาน
เมื่อวันที่ 10 มกราคม KNDF ได้ตรวจค้นหมู่บ้านดอโซเชะ ในเมืองดีมอโซ โดยได้ยึดอาวุธและกระสุนบางส่วนที่ ทหารพม่าทิ้งไว้ และได้ฝังศพของทหารพม่า ตามรายงานของ KNDF การระดมยิงตามอำเภอใจของทหารพม่า ในวันนั้น ที่หมู่บ้านนานแหม่โค่ง ทำให้หญิงวัย 55 ปีที่เป็นโรคหัวใจทรุดลงและเสียชีวิต
เมื่อวันที่ 11 มกราคม การปะทะกันอย่างรุนแรงเกิดขึ้นที่มายโลงและหยั่วตานชเว่ ในเมืองลอยก่อ ทำให้ทหารพม่าเสียชีวิต 20 นายและทหาร KNDF เสียชีวิตหนึ่งนาย ในตอนเย็นทหารพม่า ได้เผาบ้านบางหลังในมายโลง และเครื่องบินขับไล่ 2 ลำได้ทิ้งระเบิดใส่เมืองลอยก่อ
เมื่อวันที่ 12 มกราคม เหตุระเบิดโดยเครื่องบินรบของทหารพม่า ทำให้โบสถ์คาทอลิกในชุมชนดออุ้ขู่ของเมืองลอยก่อได้รับความเสียหาย
เมื่อวันที่ 13 มกราคม ในช่วงเช้า ทหารพม่าได้ตั้งค่ายใกล้กับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีในชุมชนมายโลง เมืองลอยก่อ และได้ปะทะกันกับกองกำลังของ KA, KNDF และ PDF ในวันเดียวกันกองทัพ KA และ KNDF โจมตีด่านหน้าแม่สะลองต่องของทหารพม่า ระหว่างหมู่บ้านบอละและหมู่บ้านนานแพ
เมื่อวันที่ 14 มกราคม ทหารพม่ายิงกระสุนตามอำเภอใจ ใกล้กับโรงเรียนแห่งหนึ่งในย่านกะยาปาย เมืองบอละแพของคะเรนนี ซึ่งทำให้ชาวบ้านเสียชีวิต
เมื่อวันที่ 16 มกราคม เวลา 18.00 น. ชายอายุ 40 ปีเหยียบกับระเบิดที่บริเวณใกล้กับหมู่บ้านนานแกว่ ทางตอนเหนือของเมืองลอยก่อ และทำให้ขาซ้ายของเขาขาด
วันเดียวกันทหารพม่า 100 นายได้โจมตีใกล้โบสถ์แบปทิสต์ ในชุมชนมายโลง เมืองลอยก่อ และปะทะกับกองกำลังร่วมของ KA, KNDF, Demawso PDF และ KDF หลังจากได้รับบาดเจ็บสาหัส กองทัพพม่าได้ใช้เครื่องบินขับไล่ไอพ่น 2 ลำเพื่อทิ้งระเบิดที่เมืองลอยก่อเมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. การโจมตีทางอากาศและการยิงกระสุนของทหารพม่าตามอำเภอใจเหล่านี้นำไปสู่เหตุไฟไหม้และสร้างความเสียหายให้กับสำนักงานเผยแผ่ศาสนากลุ่มแบปทิสต์กะยาพู บ้านเด็กกำพร้ามิตตาหมู่น และบ้านเรือนหลายหลัง รวมถึงสำนักงาน CBO บางแห่ง เมื่อเวลา 17:40 น. เครื่องบินขับไล่ของกองทัพพม่าได้ทิ้งระเบิดที่หมู่บ้านนานแหม่โข่งในเมืองดีมอโซ ฆ่านักสังคมสงเคราะห์รุ่นเยาว์ 3 คน ในวันเดียวกัน KNDF โจมตีทหารพม่าที่จะไปตักน้ำในหมู่บ้านหม่าคะหย่อเชะ จากฐานบนยอดเขาใกล้เคียงในเมืองพรูโซ ทำให้ทหารพม่าได้รับเจ็บและเสียชีวิต ตามคำแถลงของ KNDF BO 15
• การโจมตีทางอากาศและภาคพื้นดินของทหารพม่า ทำให้เกิดการอพยพจำนวนมากในเมืองลอยก่อและเมืองดีมอโซ
ตั้งแต่ต้นเดือนมกราคม 2565 การสู้รบอย่างหนักในเมืองลอยก่อและดีมอโซ ซึ่งไม่เพียงแค่เกี่ยวข้องกับการโจมตีภาคพื้นดินของกองทัพพม่าเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการโจมตีทางอากาศด้วย ทำให้ชาวบ้านต้องหลบหนีไปยังค่ายผู้พลัดถิ่นในป่า ตลอดจนพื้นที่อื่นๆ รวมทั้งรัฐฉาน ผู้พลัดถิ่นที่หลบหนีออกจากเมืองต่างๆ รวมทั้งลอยก่อถูกทหารพม่า ขัดขวางไม่ให้เข้าสู่ตองด้วยวิธีต่างๆ นานา รวมถึงการเรียกเงินจำนวนมากตามทางหลวงสายหลักลอยก่อ-ตองจีในเมืองลอยก่อ หลังจากชาวบ้านหลบหนี ทหารพม่า และอาชญากรคนอื่นๆ ได้บุกเข้าไปในบ้านและร้านค้าที่ว่างเปล่า ขโมยและปล้นทรัพย์สิน สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อยู่อาศัยที่พลัดถิ่นมากขึ้น ความกลัวการโจมตีทางอากาศทำให้ชาวเมืองลอยก่อประมาณ 20,000 คน (ประมาณ 2 ใน 3 ของประชากรในเมือง) ต้องหลบหนี ขณะที่ชาวเมืองดีมอโซที่แต่ก่อนพลัดถิ่นพยายามจะกลับบ้านเกิดได้หนีออกจากเมืองอีกครั้ง ผู้พลัดถิ่นถูกสังหารโดยการโจมตีทางอากาศในเวลากลางคืนของทหารพม่า
เมื่อวันที่ 17 มกราคม เวลา 01.00 น. เครื่องบินของทหารพม่าได้ทิ้งระเบิดเหนือค่ายผู้พลัดถิ่นในเมืองพรูโซ ทำให้เด็กหญิงสองคน (อายุ 12 และ 15 ปี) และชายวัย 50 ปี เสียชีวิต