เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2565 สื่อมวลชนหลายสำนักข่าวของพม่า ไม่ว่าจะเป็น Irrawaddy, Myanmar Now, DVB เป็นต้น ได้ออกมารายงานบรรยากาศครบรอบ 1 ปี รัฐประหารในพม่าซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ โดยประชาชนในหลายเมืองจากทั่วประเทศ ได้พร้อมใจกันประท้วงเงียบ โดยการปิดบ้าน ปิดร้านค้า และไม่ออกจากบ้าน เพื่อประท้วงกองทัพพม่าและเพื่อเป็นการไว้อาลัยให้กับผู้เสียชีวิตจากเหตุรัฐประหาร ถึงแม้ก่อนหน้านี้ทหารพม่าได้ออกมาข่มขู่อย่างหนัก ห้ามประชาชนและร้านค้าต่างๆ เข้าร่วมประท้วงเงียบก็ตาม แต่ก็ไม่เป็นผล
บรรยากาศในเมืองใหญ่ๆอย่างเมืองย่างกุ้ง เมืองมัณฑะเลย์พบว่า ตามถนนหรือสี่แยกใหญ่ๆแทบไม่มีรถออกมาวิ่งสัญจร หรือแทบจะไม่พบเห็นผู้คน โดยประชาชนส่วนใหญ่ต่างปิดบ้านและอยู่แต่ในบ้านของตัวเอง แม้ตลาดใหญ่หลายแห่งในมัณฑะเลย์ได้เปิดทำการ แต่พบว่าไม่มีคนเดินซื้อของแต่อย่างใด ขณะที่ในรัฐชาติพันธุ์อย่างที่เมืองผากั้น รัฐคะฉิ่น หรือที่เมืองมุดง รัฐมอญ และที่เมืองทวาย เขตตะนาวศรี ประชาชนก็ได้ออกมาประท้วงเงียบเช่นเดียวกัน
ด้านสำนักข่าว SHAN รายงานว่า ในหลายเมืองของรัฐฉาน เช่น เมืองน้ำคำ เมืองหมู่แจ้ เมืองตองจี และเมืองป๋างโหลง ประชาชนต่างก็ปิดบ้านร่วมประท้วงเงียบ มีร้านค้าเปิดเป็นส่วนน้อย และไม่มีคนซื้อของ อย่างไรก็ตาม ในเมืองน้ำคำ ทหารพม่าได้ยิงปืนใหญ่เป็นเวลา 15 นาที ทำให้ประชาชนในพื้นที่ตกใจ เช่นเดียวกับพ่อค้าแม่ค้าต้องรีบปิดร้าน ขณะที่ในเมืองหมู่แจ้ ติดชายแดนจีน ได้มีเสียงคล้ายระเบิด เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ประชาชนไม่กล้าออกจากบ้าน
นอกจากนี้ในเมืองท่าขี้เหล็ก ได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นเมื่อเวลา 12.00 น.ของวันที่ 1 กุมภาพันธ์ในระหว่างที่กลุ่มผู้สนับสนุนกองทัพพม่าเดินขบวนไปรอบเมือง เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 2 คน และได้รับบาดเจ็บมากกว่า 30 คน โดยผู้ที่ได้รับบาดเจ็บมีทหารพม่ารวมอยู่ด้วย โดยผู้ที่ออกมาเดินขบวนสนับสนุนกองทัพพม่าในเมืองท่าขี้เหล็ก มีทั้งครอบครัวของทหารพม่า อดีตทหารพม่า และกลุ่มชาติพันธุ์ชาวอาข่าและชาวล่าหู่ที่อยู่ในพื้นที่
ทั้งนี้เนื่องใจวันครบรอบ 1 ปีรัฐประหารในพม่า พบว่ามีตัวเลขประชาชนผู้บริสุทธิ์ถูกทหารพม่า สังหารไม่น้อยกว่า 1,500 คน และถูกจับกุมมากกว่า 11,000 คน โดยเกือบ 9,000 คนยังอยู่ในคุก ส่วนใหญ่เป็นนักเคลื่อนไหวที่ออกมาต่อต้านกองทัพพม่า มีทั้งนักข่าว ผู้นำนักการเมือง นักกฎหมาย สมาชิกพรรคเอ็นแอลดี นักศึกษา บุคคลที่มีชื่อเสียง หมอ และศิลปินเป็นต้น นอกจากนี้ เมื่อทหารพม่าไม่สามารถจับกุมตัวบุคคลที่ต้องการจับตัวได้ ก็จะจับกุมสมาชิกครอบครัวแทน โดยพบว่ามีสมาชิกครอบครัวอย่างน้อย 301 ครอบครัวที่ถูกจับ
อย่างไรก็ตามตัวเลขผู้เสียชีวิตทั้งหมดจากเหตุรัฐประหาร สงครามกลางเมืองในประเทศในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา มีทั้งสิ้น 10,804 คน ในจำนวนนี้มีทั้งประชาชนผู้บริสุทธิ์ และคนที่สนับสนุนทหารรวมอยู่ด้วย ในจำนวนนี้พบว่ามีทหารของกองทัพเพื่อประชาชน PDF เสียชีวิต 167 คน ส่วนทหารพม่าเสียชีวิต 7,591 คน และยังทำให้ประชาชน 710,000 คนต้องหนีสงคราม บ้านเรือน 2,265 ถูกเผาทำลายเสียหาย
ด้านนักวิเคราะห์การเมืองไทใหญ่นามปากกาว่า “เฮือนก๋ายาง” มองว่า ครบรอบ 1 ปีรัฐประหาร ทุกคนต่างเห็นเหมือนกันแล้วว่ากองทัพพม่านั้นเลวร้ายแค่ไหน ความคืบหน้าพอมีอยู่บ้าง ตรงที่ชาวพม่าเข้าใจชาติพันธุ์แล้วว่าที่ผ่านมานั้นต้องประสบความยากลำบากอย่างไรบ้างภายใต้กองทัพพม่าเพราะขณะนี้คนพม่าได้เจอประสบการณ์ความรุนแรงและการละเมิดสิทธิมนุษยชนจากทหารพม่าด้วยตัวเองแล้ว และเชื่อว่าชาวพม่าน่าจะมีความเห็นอกเห็นใจต่อกลุ่มชาติพันธุ์มากขึ้น เช่นเดียวกันจะต้องปกครองในระบอบสหพันธรัฐเท่านั้น หากไม่ต้องการเห็นประเทศพม่าแตกแยกหรือล่มสลาย
เฮือนก๋ายางวิเคราะห์อีกว่า ขณะนี้ยังมองไม่เห็นหนทางว่าทั้งฝ่ายกองทัพพม่าและฝ่ายต่อต้านจะหันหน้ามาเจรจากันได้ โดยเชื่อว่า กองทัพพม่าไม่ต้องการสูญเสียอำนาจ และจะทำทุกวิถีทางเพื่อรักษาอำนาจของตนไว้ หากจัดการเลือกตั้งไม่สำเร็จก็จะยิ่งเข้าทางกองทัพพม่าให้ปกครองเหมือนในอดีต อย่างไรก็ตามหากไม่ต้องการให้ทหารสืบอำนาจต่อไป และอยากให้เกิดความสงบและหาทางออกให้ประเทศได้ ทุกกลุ่มที่ออกมาเคลื่อนไหวต่อสู้ ทั้งกลุ่มชาติพันธุ์ และกลุ่มที่ก่อตั้งขึ้นมาใหม่อย่าง PDF จะต้องร่วมมือกัน