เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2565 เครือข่ายสันติภาพกะเหรี่ยง (Karen Peace Support Network) ได้ออกแถลงการณ์ประณามการโจมตีทางอากาศครั้งล่าสุดในพื้นที่อุทยานสันติภาพสาละวิน (Salween Peace Park) ในพื้นที่รัฐกะเหรี่ยง ประเทศพม่า ซึ่งอยู่บริเวณตรงข้าม อ.แม่สะเรียง และ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน โดยระบุว่าเมื่อเวลา 01.00 น. ของวันเดียวกันนี้ กองทัพพม่าได้ปฏิบัติการการโจมตีทางอากาศที่หมู่บ้านต่าดวีโก่ และหมู่บ้านมาต่อ เขตเดวโล Dweh Lo ในจังหวัดมือตรอ รัฐกะเหรี่ยง ส่งผลให้พลเรือนเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 6 ราย มี โดยเป็นผู้สูงอายุและเด็กหญิง 1 รายรวมอยู่ด้วย และยังมีการทิ้งระเบิดอีก 3 ลูกในหมู่บ้านอื่น ซึ่งไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต
เครือข่ายสันติภาพกะเหรี่ยงระบุว่า กองทัพพม่าซึ่งกระทำรัฐประหารเข้ายึดครองประเทศ ได้ดำเนินการโจมตีทางอากาศ ทิ้งระเบิด และกระสุนปืนใหญ่อย่างต่อเนื่องในเขตอุทยานสันติภาพสาละวิน ทุกวันตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 ก่อนหน้านี้ในวันที่ 29 มกราคม เมื่อกองกำลังรักษาชายแดน (BGF) ภายใต้กองทัพพม่า ได้ยิงปืน ค.เข้าไปในหมู่บ้านตีลอที เป็นเหตุให้เด็กทารกอายุ 3 เดือนและหญิงอายุ 20 ปีเสียชีวิตทันที นอกจากนี้ยังโจมตีทางอากาศบริเวณค่ายกองกำลัง KNLA (Karen National Liberation Army)ของสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) ริมแม่น้ำสาละวิน เมื่อวันที่ 31 มกราคม ซึ่งเป็นวันปฏิวัติกะเหรี่ยง
“ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม จนถึงวันนี้มีพลเรือนเสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 7 ราย บาดเจ็บไม่น้อยกว่า 26 ราย มีทั้งผู้สูงอายุ เด็ก และสตรี จากเหตุระเบิดและการโจมตีเหล่านี้ ประชาชนในอุทยานสันติภาพสาละวินหวังว่าประชาคมนานาชาติจะเข้ามาแทรกแซงและช่วยขับไล่เผด็จการกองทัพพม่าที่พยายามเข้ายึดครองประเทศอย่างผิดกฎหมาย สังหารประชาชนนับไม่ถ้วน และทำให้ชีวิตของพลเรือนหลายล้านคนในพม่าตกอยู่ในอันตรายเนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศพม่าได้เข้าร่วมต่อต้านเผด็จการทหาร จึงเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศ รวมทั้งองค์การสหประชาชาติ ช่วยเหลือเราผ่านการปฏิบัติการทางทหารและเศรษฐกิจ” แถลงการณ์ระบุ
แถลงการณ์ระบุด้วยว่า ประชาชนชาวกะเหรี่ยงรายหนึ่งซึ่งอาศัยอยู่ในอุทยานสันติภาพสาละวิน กล่าวว่าหวังว่าประเทศที่มีอำนาจและสหประชาชาติจะสนับสนุนกลุ่มกองกำลังชาติพันธุ์ และกองกำลังประชาชน (PDF) ในการต่อสู้กับกองทัพพม่า เป็นเวลาหลายทศวรรษแล้วที่เราได้ดูแลที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติโดยใช้วิธีการอนุรักษ์และธรรมาภิบาลแบบพื้นเมือง ผู้นำของเราพยายามสร้างสันติภาพผ่านการเจรจาทางการเมืองและการกระทำอย่างสันติ แต่กองทัพพม่ายังคงใช้ความรุนแรงเพื่อรักษาอำนาจของตนในการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติของประเทศเรา
“เราต้องการการสนับสนุนจากประเทศที่มีอำนาจในด้านต่างๆ เช่น อาวุธต่อต้านอากาศยาน เราจึงจะสามารถป้องกันเครื่องบินไอพ่นของกองทัพพม่าได้ เราได้เรียกร้องให้ประกาศเขตห้ามบิน (No Fly Zone) และยุติการขายอาวุธให้แก่กองทัพพม่า เราหวังว่านานาชาติจะช่วยเราในลักษณะเดียวกับที่กำจัดระบอบการปกครองที่ชั่วร้ายและผิดกฎหมายอื่นๆ”
นางกญอพอ ผู้อำนวยการเครือข่ายสตรีกะเหรี่ยง (KWO) ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวชายขอบผ่านโทรศัพท์ว่าทหารพม่าโจมตีประชาชนอย่างต่อเนื่อง เราจำเป็นต้องเรียกร้องให้นานาชาติสนับสนุนประชาชนในพม่าเพื่อยุติอาชญากรรมสงคราม เพราะนี่เป็นเรื่องของประชาชนชาวพม่าทั้งหมด ไม่ใช่เพียงในรัฐกะเหรี่ยงเท่านั้น เหตุการณ์ทารุณกรรมประชาชนโดยเผด็จการทหารพม่าเกิดขึ้นอย่างมากมายและต่อเนื่อง นับวันเหตุการณ์ยิ่งเลวร้ายไปเรื่อยๆ การประณามจากนานาชาตินั้นไม่เพียงพอ ต้องมีปฏิบัติการเพื่อยุติการกระทำนี้ทันที
ด้านเพจศูนย์ข้อมูลคะเรนนี Karenni Information Centre (KnIC) ของกองกำลังรัฐคะเรนนี Karenni National Progressive Party(KNPP) เผยแพร่รูปภาพการจบหลักสูตรกองกองทัพคะเรนนี Karenni Army ณ ฐานที่มั่นในรัฐคะเรนนี โดยมีผู้นำกองทัพหลายคนเข้าร่วม
ขณะที่เพจองค์กรกะเหรี่ยงในออสเตรเลีย Australian Karen Organization ได้รายงานว่าวันนี้ที่เมืองบริสเบน ชุมชนชาติพันธุ์ต่างๆ ที่อาศัยในออสเตรเลียได้รวมตัวกันเดินขบวนโดยสันติเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลออสเตรเลียยุติความสัมพันธ์กับกองทัพพม่า โดยในการชุมนุมมีผู้เข้าร่วมทั้งชาวกะเหรี่ยง ไทใหญ่ คะเรนนี โรฮิงญา มีการถือป้ายสนับสนุนประชาธิปไตยในพม่าและประณามกองทัพพม่า
