เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2565 ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ได้ส่งหนังสือแจ้งต่อเครือข่ายประชาชนลุ่มน้ำโขงอีสานโดยระบุว่ายังไม่มีการพิจารณาให้บริษัทเอกชนเข้าสำรวจพื้นที่เพื่อสร้างเขื่อนผามอง หรือเขื่อนปากชม ซึ่งกั้นแม่น้ำโขงระหว่างพรมแดนไทย-ลาวด้านจังหวัดเลย
นายชาญณรงค์ วงศ์ลา ตัวแทนเครือข่ายประชาชนลุ่มน้ำโขงอีสาน กล่าวว่า ทางเครือข่ายได้ส่งจดหมายถึงผู้ว่าราชการจังหวัดเลย เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา เพื่อสอบถามการอนุญาตให้บริษัทพลังงานบริสุทธิ์ จำกัดขออนุญาตเข้าพื้นที่เพื่อสำรวจแม่น้ำโขงในเขตอำเภอปากชมและเชียงคาน จังหวัดเลย ในการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำผามอง หรือเขื่อนปากชม ซึ่งบริษัทได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับทางรัฐบาลลาว เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2564
นายชาญณรงค์กล่าวว่า ขณะนี้ได้รับจดหมายตอบกลับจากผู้ว่าราชการจังหวัดเลยฯ โดยหนังสือลงวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565 เนื้อหาระบุว่า โครงการดังกล่าวเป็นการดำเนินการในแม่น้ำโขง ที่เป็นแม่น้ำระหว่างประเทศ และอาจจะส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ ซึ่งจังหวัดเลยอยู่ระหว่างการหารือแนวทางปฏิบัติในกรณีดังกล่าวไปยังส่วนกลาง และขณะนี้ยังไม่มีการพิจารณา เรื่องการเข้าพื้นที่ของบริษัทพลังงานบริสุทธิ์ จำกัด(มหาชน) แต่อย่างใด
อนึ่ง บริษัทพลังงานบริสุทธิ์ จำกัด มหาชน ได้แจ้งต่อคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศเกี่ยวกับการลงนามบันทึกความเข้าใจร่วมกับรัฐบาลลาวในการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการเขื่อนผามองและปากชม เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2563 ว่า ทางบริษัทฯได้ร่วมทุนกับพันธมิตร 3 รายเป็น “ผู้ร่วมพัฒนา” ได้แก่ บริษัทเจริญเซกองเอเนอยี่ จำกัดมหาชน สปป.ลาว(Chaleun Sekong Energy Company Limited) บริษัทเวกา ดิจิตอล จำกัด(มหาชน) (Vega Digital Company Limited) ประเทศไทย และบริษัทพีเอสไอ เซอวิส โซล จำกัด(มหาชน) (PSI Service Sole Company limited) สปป.ลาว ได้เสร็จสิ้นการร่วมลงนามกับรัฐบาลลาวในการทำบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการเขื่อนผามองและเขื่อนสาละวัน ภายในระยะเวลา 2 ปี โดยจะดำเนินการร่วมสำรวจ ศึกษาผลกระทบและความเป็นไปได้ของโครงการ ภายใต้ขอบเขตและพัฒนาตามกรอบกฎ