สำนักข่าว Mizzima รายงานเมื่อวันที่ 19 ก.พ.2565 ที่ผ่านมา กองทัพพม่าเดินทางเข้ามาในหมู่บ้านเชาก์อู อยู่ห่างจากเมืองปะเลในเขตสะกายไป 32 กิโลเมตร และได้ทำการจุดไฟเผาหมู่บ้านแห่งนี้เสียหายวอดทั้งหมู่บ้าน ถึงแม้ไม่มีเหตุการณ์สู้รบใดๆ ก็ตาม โดยมีบ้านเรือนเสียหายไปกว่า 270 หลัง จากทั้งหมด 300 หลัง โดยระหว่างที่เข้ามายังหมู่บ้าน มีการยิงปืนไปรอบๆ หมู่บ้าน ขณะที่ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้ต่างหนีตายเอาชีวิตรอดไปอยู่ที่อื่น
ชาวบ้านรายหนึ่งในพื้นที่เปิดเผยว่า ได้หนีออกมาจากหมู่บ้านพร้อมกับสัตว์เลี้ยงก่อนหน้านั้นโดยไม่มีใครกล้าดับไฟเพราะทหารพม่ายังอยู่ในหมู่บ้าน
“เราต้องเก็บเงินกว่าที่จะสร้างบ้านได้ ตอนนี้ผมเศร้ามาก ที่บ้านของผมถูกเผา ผมไหว้พระขอให้คนที่ก่อเหตุครั้งนี้ได้รับผลกรรมที่พวกเขาทำไว้” ผิ่วซอตี กล่าว โดยผิ่วซอตี ใช้เวลาเก็บเงินเป็นเวลา 3 ปี เพื่อสร้างบ้าน แต่บ้านของเขาเป็น 1 ในหลายร้อยหลังที่ถูกทหารพม่าเผาเสียหาย
ภาพหมู่บ้านแห่งนี้ถูกเผามีควันลอยโขมงได้ถูกนำเผยแพร่บนโซเชียลในพม่า ซึ่งหลายเดือนที่ผ่านมานี้ ในเขตสกายเป็นอีกพื้นหนึ่งที่ถูกโจมตีจากกองทัพพม่าอย่างหนัก การเผาบ้านเรือนของชาวบ้านเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ทางกองทัพพม่าใช้กับชาวบ้านที่ต้องสงสัยว่าให้การสนับสนุนกองทัพเพื่อประชาชน PDF
ขณะที่อีกพื้นที่หนึ่งในเขตสะกายคือเมืองขิ่นอู ทางสำนักข่าว Irrawaddy รายงานว่า ได้เกิดเหตุปะทะกันระหว่างกองทัพพม่าและกองทัพประชาชนในชื่อ กองกำลังปฏิวัติ Armed Revolutionary Force (ARF) โดยทหาร ARF พร้อมอาวุธที่ทำขึ้นเอง เข้าโจมตีทหารพม่าที่มีกำลังพลราว 80 นาย ในระหว่างที่ทหารพม่ากำลังปล้นสะดมข้าวสารและเผาหมู่บ้าน เมียวติ้ต ตั้งอยู่ทางตะวันตกของเมืองขิ่นอู
เหตุปะทะกันทำให้ทหาร ARF เสียชีวิต 12 นาย ทั้งนี้ โฆษกของกลุ่ม ARF ยอมรับว่ากองทัพของตนขาดแคลนอาวุธที่มีประสิทธิภาพและระหว่างต่อสู้อยู่ในพื้นที่โล่งแจ้งทำให้เสียเปรียบและถูกโจมตีจากกองทัพพม่าที่มีอาวุธที่เหนือกว่า
“เราไม่สนใจหากว่าต้องรบในพื้นที่โล่งแจ้ง แต่ปัญหาหลักของเราก็คือ เราไม่มีอาวุธที่ดีพอ นั่นจึงทำให้เราสูญเสียเป็นจำนวนมาก ดังนั้นเราจึงขอร้องให้ทางรัฐบาล NUG และประชาชนโปรดช่วยสนับสนุนเราในเรื่องนี้ด้วย” โฆษกของกลุ่มดังกล่าวระบุและว่า พร้อมที่จะต่อสู้จนกว่าจะที่รัฐบาลเผด็จการทหารจะออกไป
ขณะที่กองทัพพม่ากำลังเผชิญกับการถูกโจมตีทั้งจาก PDF และกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ทั่วประเทศ ในขณะเดียวกันกองทัพพม่าก็ยังเดินหน้าละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อประชาชนในประเทศอย่างหนัก โดยเฉพาะในเขตสะกาย เขตมะกวย รัฐชิน รัฐคะเรนนี และรัฐกะเหรี่ยง ทั้งการสังหารหมู่ การเผาทั้งเป็น การบังคับใช้พลเรือนหรือคนที่ตกเป็นนักโทษเป็นโล่กำบังมนุษย์ การปล้นสะดม การเผาทำลายบ้านเรือนชาวบ้าน และยิงปืนโจมตีในเขตชุมชน เป็นต้น