สำนักข่าว Irrawaddy รายงานเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2565 ว่า ทางการพม่าออกมาประกาศคำสั่งใหม่ให้ประชาชนพกบัตรประจำตัวประชาชนเวลาเดินทางออกนอกพื้นที่ นอกจากนี้จะต้องรายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเวลาเดินทางไปพักในพื้นที่นั้นๆ ขณะที่ยังไม่มีคำอธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้จากทางการพม่า เพียงแต่ระบุว่า มีความจำเป็นต้องใช้กฎหมายนี้เท่านั้น
กระทรวงเกี่ยวกับคนเข้าเมืองและประชากร ภายใต้กองทัพพม่าได้ประกาศใช้กฏหมายใหม่ โดยระบุตั้งแต่วันที่1 เมษายน 2565 เป็นต้นไป ประชาชนทุกคนในประเทศจะต้องพกบัตรประจำตัวประชาชน หรือมาดโป่งติ่น ในภาษาพม่าเวลาเดินทาง เพื่อรับการตรวจจากเจ้าหน้าที่
ขณะที่สื่อพม่าวิเคราะห์ว่า เหตุที่ใช้มาตรการนี้ มีเป้าหมายเพื่อปราบปรามสมาชิกพรรคพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย(NLD) สมาชิกกองทัพเพื่อประชาชน (PDF) กลุ่มต่อต้านกองทัพพม่าและนักข่าวที่กำลังหลบหนีการจับกุม
อีกด้านหนึ่งสำนักข่าว SHAN รายงานว่า แม้จะมีการเปิดให้ทำบัตรประชาชนในหลายพื้นที่ของรัฐฉาน แต่ประชาชนบางส่วนก็ยังไม่สามารถทำบัตรได้ เนื่องจากมีการเรียกเก็บเงินเป็นจำนวนมากจากประชาชนที่บัตรหมดอายุและต้องการต่อใหม่ หรือบางกรณีที่พ่อแม่ไม่มีบัตรประจำตัวประชาชน ทางการพม่าก็ไม่ทำบัตรใหม่ให้บุคคลนั้นๆ ทำให้ ชาวบ้านในรัฐฉานทำบัตรประชาชนค่อนข้างยาก
ชาวบ้านในรัฐฉานรายหนึ่งกล่าวว่า กฏหมายให้พกบัตรนอกจากต้องการปราบปรามกลุ่มต่อต้านแล้ว น่าจะเป็นวิธีการข่มขู่ประชาชนและจำกัดการเดินทางของกองทัพพม่า ซึ่งสอดคล้องกับคนขับรถโดยสารในรัฐฉานที่ระบุ ไม่กล้ารับผู้โดยสารที่ไม่มีบัตรประจำตัวเหมือนเมื่อก่อนแล้ว
ทั้งนี้นับตั้งแต่กองทัพพม่ายึดอำนาจได้ประกาศใช้กฏหมายหลายฉบับแล้วที่ลิดรอนสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน เช่นพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ที่ตรวจค้นโทรศัพท์มือถือส่วนตัวของประชาชนเวลาเดินทางออกไปข้างนอก โดยหากพบข้อความต่อต้านกองทัพพม่าในโทรศัพท์ เจ้าของก็จะถูกจับ นอกจากนี้ยังยึดทรัพย์และขายทอดตลาดทรัพย์สินของประชาชนที่ออกมาต่อต้านกองทัพพม่า เป็นต้น