เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2565 สำนักข่าว SHAN รายงานว่า ฝ่ายตรวจคนเข้าเมืองหรือที่รู้จักกันในชื่อ “ละว่าก้า” ได้สำรวจประชากรในเมืองก๋อง รัฐคะฉิ่น ทางเหนือสุดของประเทศพม่า โดยฝ่ายตรวจคนเข้าเมืองของพม่าได้ลบคำว่าเชื้อชาติ “ไตย” หรือไทใหญ่ ออกจากทะเบียนบ้านของประชาชนในพื้นที่ เหลือไว้แต่คำว่า เชื้อชาติ “พม่า” ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับประชาชนที่เป็นชาติพันธุ์ไตยแดง หรือไตยแหลงที่หวั่นสูญเสียอัตลักษณ์
ทั้งนี้ทางการพม่าได้เข้าสำรวจจำนวนประชากรชาติพันธุ์ไตยแหลง หรือไตยแดง ในตำบลเป็งป๋อ เมืองก๋อง โดยทางการพม่าได้ลบเชื้อชาติของคนในพื้นที่ ที่ระบุไว้ว่าเป็นเชื้อชาติ ไตย หรือไทใหญ่ เปลี่ยนเป็นเชื้อชาติพม่าแทน บางส่วนที่ระบุไว้ในทะเบียนบ้านว่า เป็นคนเชื้อชาติไตยและพม่า ทั้งสองเชื้อชาติ ทางการพม่าได้แก้ไขเหลือไว้แต่คำว่า เชื้อชาติพม่าอย่างเดียว
ชาวบ้านในพื้นที่รายหนึ่งเปิดเผยว่า ตั้งแต่ในสมัยปู่ย่าตายายแล้ว ที่ในทะเบียนบ้านของเขาระบุไว้สองเชื้อ ชาติไทใหญ่กับพม่า แต่ขณะนี้ทางการแก้ไขเปลี่ยนเป็นเชื้อชาติพม่าอย่างเดียว แม้ตนจะร้องเรียนให้ทางการแก้ไขให้เหมือนเดิม โดยระบุเชื้อชาติไทใหญ่ลงไปในทะเบียนบ้านด้วย แต่ทางการพม่าไม่ยอมทำตามคำเรียกร้อง โดยชาวบ้านคนอื่นๆในพื้นที่ก็ประสบเหตุการณ์เช่นนี้เช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ยังมีรายงานเพิ่มเติมว่า เยาวชนชาติพันธุ์ไตยแดงที่มีอายุครบ 18 ปี และถ่ายบัตรครั้งแรก ถึงแม้จะมีเชื้อชาติไทใหญ่และพม่าก็ตาม แต่ในบัตรประจำตัวระบุว่าเป็นเชื้อชาติพม่าอย่างเดียว การเปลี่ยนแปลงนี้เพิ่งเกิดขึ้น 1 ปี นับตั้งแต่กองทัพพม่ายึดอำนาจเท่านั้น โดยชาวไตยแดงนั้น แม้จะยอมรับว่าตัวเองเป็นชาติพันธุ์ไทใหญ่ แต่ที่ผ่านมาในสมัยรัฐบาลเผด็จการทหารหลายยุคหลายสมัย ระบุในเอกสารทางราชการว่า ชาวไตยแดงนั้นเป็นทั้งเชื้อชาติไทใหญ่และพม่า
ชายชาวไตยแดงวัย 60 กว่าปีรายหนึ่งให้สัมภาษณ์ว่า “เคยเรียกร้องให้ทางการพม่าเขียนระบุในเอกสารว่าเราเป็นชาวไตยแดง พวกเขาบอกว่า ใส่ให้ไม่ได้เพราะถูกห้ามไว้ ทางการพม่าคงกลัวชาติพันธุ์เราเป็นใหญ่หรือมีอิทธิพล คงกลัวจะต้องให้สิทธิแก่เรา จึงไม่ยอมระบุในเอกสารว่าเราเป็นชาติพันธุ์ไตย หรือไทใหญ่”
ทั้งนี้ ชาวไตยแดง หรือไตยแหลงนั้น ประกอบด้วย 2 กลุ่มใหญ่ คือไตยลายกับไตยนาย คาดว่า มีประชากรอยู่ในรัฐคะฉิ่นราว 100,000 คน นอกจากนี้ยังมีชาวไตยแดงมากกว่า 100,000 คน อาศัยอยู่ในเขตสะกายด้วย
