
สำนักข่าว Khonumthung ได้ออกมาเปิดเผยเมื่อเร็วๆ นี้ว่า ประชาชนที่หนีการสู้รบระหว่างกองทัพพม่าและกองกำลังปกป้องรัฐชิน (Chinland Defence Force – CDF) ในเมืองกั่นเพ็ตเล็ตกำลังขาดแคลนอาหารและยารักษาโรค โดยคาดว่า มีประชาชนราว 1,000 คน ที่ยังหลบหนีซ่อนตัวอยู่ในป่า โดยนับตั้งแต่เมื่อวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา ทางกองทัพพม่านับร้อยนายได้โจมตีกองกำลัง CDF อย่างหนัก จนทำให้ทาง CDF ต้องยอมถอนออกจากฐานที่มั่นสำคัญของตัวเอง
มีรายงานว่า ทางกองทัพพม่าได้ยิงปืนใหญ่ใส่ในชุมชน และชาวบ้านเสียชีวิต 1 ราย โดยหลังจากถอนทหารจากฐานที่มั่น ทางกองกำลัง CDF ประกาศว่า ที่จำเป็นต้องถอยออกมาเนื่องจากขาดแคลนอาวุธ และไม่อยากให้ประชาชนต้องสูญเสียหรือตกเป็นเหยื่อของสงครามระหว่างกองทัพพม่าและกองกำลัง CDF ขณะที่ผู้ลี้ภัยสงครามจากเมืองกั่นเพ็ตเล็ตไม่กล้ากลับบ้าน หลังกองทัพพม่ายิงปืนเข้าใส่ในพื้นที่ ซึ่งผู้ลี้ภัยราว 400 คน เป็นคนแก่ ผู้หญิง และเด็ก
อาสาสมัครที่ให้การช่วยเหลือผู้ลี้ภัยเหล่านี้เปิดเผยว่า มีหญิง 2 รายที่ต้องแท้งบุตรระหว่างการหลบหนีเหตุการณ์ความรุนแรง ขณะที่เด็กๆ กำลังป่วยเป็นหวัดและโรคท้องเสีย และต้องการยาและวิตามินเพื่อฟื้นฟูร่างกาย ทั้งนี้ เมืองส่วนใหญ่ในรัฐชินถูกตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์มาระยะเวลาหนึ่งแล้ว

อีกด้านหนึ่ง กองทัพแนวร่วมแห่งชาติชิน (Chin National Front -CNF) ซึ่งก่อตั้งครบรอบ34 ปี เมื่อวันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมา ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อชินว่า ทางกองทัพนั้นจะเดินหน้าร่วมกับประชาชนและรัฐบาล NUG ต่อสู้กับกองทัพพม่า เพื่อปลดแอกจากการปกครองของกองทัพพม่า อีกทั้งเพื่อให้รัฐชินสามารถปกครองตัวเอง โดยจะฟื้นฟูสันติภาพให้เกิดขึ้นในรัฐชิน เช่น ประชาชนที่สูญเสียบ้านเรือนจากเหตุสงครามและความรุนแรงก็จะต้องได้รับการเยียวยา เป็นต้น
โฆษกของ CNF กล่าวว่า นับตั้งแต่กองทัพพม่ารัฐประหาร ประชาชนสูญเสียทุกอย่าง ดังนั้น CNF จะต้องฟื้นฟูช่วยเหลือในสิ่งที่ประชาชนสูญเสียไป อีกทั้งจะต้องทำหน้าที่ปกป้องประชาชนในรัฐชิน โดยขณะนี้ CNF มีแผนที่จะจัดตั้งการปกครองเองในรัฐชิน นอกจากนี้ CNF และพันธมิตรสามารถคุมพื้นที่รอบๆนอกเมืองได้เกือบทั้งหมดของรัฐชิน หรือแม้แต่เส้นทางเชื่อมระหว่างเมืองต่างๆ แต่ในตัวเมืองนั้นทางกองทัพพม่ายังควบคุมไว้ได้ แต่กองทัพพม่าไม่สามารถควบคุมหน่วยงานหรือกระทรวงต่างๆ โดยหน่วยงานของรัฐส่วนใหญ่ในรัฐชินได้หยุดทำงาน
โฆษกของ CNF ยังระบุว่า ทุกฝ่ายจะต้องร่วมมือกันต่อสู้ถอนรากถอนโคนระบอบทหาร และจัดตั้งระบอบสหพันธรัฐที่แท้จริงให้เกิดขึ้น ดังนั้นทาง CNF จึงยอมเอาชีวิตเป็นเดิมพัน
“สถานการณ์บ้านเมืองของเรามาถึงทางแยกแล้ว ดังนั้นประชาชนไม่ควรสิ้นหวัง เราจะต้องร่วมกันต่อสู้กับกองทัพพม่าจนถึงที่สุด” โฆษกของ CNF กล่าว
ขณะที่สำนักข่าว Irrawaddy รายงานว่า รถบรรทุกทหารของกองทัพพม่าราว 80 คัน ได้เดินทางถึงเมืองมินดัท ทางภาคใต้ของรัฐชิน โดยรถบรรทุกทหารเหล่านี้คาดว่าขนอาวุธและเสบียงเสริมเข้ามาในรัฐชิน โดยยังไม่ทราบแน่ชัดว่าการขนอาวุธและกำลังพลเข้ามาในรัฐชินนั้นเพื่อโจมตี CNF รอบใหม่หรือไม่ โดยบางส่วนมองว่า กองทัพพม่าอาจเสริมกำลังพลเข้าไปในเมืองมาตูพี ซึ่งตั้งอยู่พื้นที่ชายแดนระหว่างรัฐชินและรัฐอาระกัน เนื่องจากขณะนี้กองทัพพม่าและกองทัพอาระกันเริ่มส่งสัญญาณตึงเครียดกันมากขึ้น

ทั้งนี้การเสริมกำลังพลเข้ามาในเมืองมินดัท สร้างความหวาดกลัวให้ประชาชนในพื้นที่ว่า กองทัพพม่ามีแผนจะโจมตีชุมชนและพลเรือน
“รัฐของเราเป็นรัฐที่ยากจนอยู่แล้ว แม้ก่อนรัฐประหาร และตอนนี้เรากำลังเผชิญกับความยากลำบากเป็นเวลา 1 ปี แล้ว ฉันไม่อยากบอกว่า เรากำลังเผชิญกับความยากลำบากอะไร เพราะคนทั่วประเทศก็ทนทุกข์เช่นกัน ไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่ง” ชาวเมืองมินดัทคนหนึ่งกล่าว
ทั้งนี้ รัฐชินนั้นตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศพม่า ทางทิศเหนือมีชายแดนติดกับรัฐมณีปุระ ประเทศอินเดีย ทิศตะวันตกติดกับรัฐมิโซรัม ประเทศอินเดีย และประเทศบังกลาเทศ ส่วนทิศตะวันออกติดกับเขตสะกายและเขตมะกวย ส่วนทิศใต้ติดกับรัฐยะไข่ มีเมืองหลวงคือเมืองฮักคา