เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2565 สำนักข่าว SHAN รายงานว่า ทหารว้า UWSA ได้เปิดฉากโจมตีทหารกองทัพรัฐฉานใต้ RCSS/SSA ภายใต้การนำของเจ้ายอดศึก ที่ฐานบัญชาการของทหารไทใหญ่ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองทา เขตเมืองสาด รัฐฉาน ประเทศพม่า โดยอยู่ห่างจากชายแดนด้านหมู่บ้านหลักแต่ง อำเภอเวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่ไป 44 กิโลเมตร โดยทหารไทใหญ่สูญเสียกำลังพล 5 นายและบาดเจ็บอีกจำนวนมาก ขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่ระบุว่าทหารว้าสูญเสียกำลังพลเป็นจำนวนมากเช่นเดียวกัน แต่กองทัพว้าอ้างมีทหารเสียชีวิตจากเหตุสู้รบครั้งนี้แค่ 1 ราย
รายงานแจ้งว่า กองทัพว้าได้เปิดฉากโจมตีทหารไทใหญ่เมื่อเวลา 10.00 น.ของวันที่5 เมษายน 2565 และโจมตีอีกครั้งเมื่อเวลา 13.00 น. ในเขตบัญชาการของทหารไทใหญ่ในเมืองทา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ทางกองทัพพม่าอนุญาตให้ทหารไทใหญ่มาประจำในพื้นที่ตั้งแต่ปี 2554 แต่ทหารไทใหญ่เพิ่งเข้ามาอยู่ในพื้นที่นี้ไม่นาน
ทหารไทใหญ่ RCSS/SSA รายหนึ่งเปิดเผยว่า ทางว้าสามารถยึดอาวุธปืนของทหารไทใหญ่ได้จำนวนหนึ่ง และเหตุสู้รบครั้งนี้ ทำให้มีทหารไทใหญ่เสียชีวิตจำนวน 5 คน และคาดว่ากองทัพว้าสูญเสียกำลังพลเป็นจำนวนมาก แต่ยังไม่มีรายละเอียดในเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม ทางว้าระบุว่า มีทหารเสียชีวิตจำนวน 1 ราย แต่ชาวบ้านในพื้นที่คาดว่า ตัวเลขน่าจะสูงกว่าที่กองทัพว้าระบุ
สื่อไทใหญ่ระบุว่า ความไม่ลงรอยกันระหว่างกองทัพว้าและกองทัพรัฐฉาน RCSS/SSA ในพื้นที่เมืองทา และเมืองต้อ ซึ่งอยู่ใกล้เคียงเริ่มส่อเค้ามาตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวจากฝ่าย RCSS/SSA กล่าวกับสำนักข่าว SHAN ในช่วงค่ำของวันเกิดเหตุว่า ผู้นำทั้งสองฝ่ายได้พูดคุยกันและสามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว อย่างไรก็ตาม สื่อไทใหญ่ ยังไม่สามารถติดต่อทาง RCSS/SSA ได้ และยังไม่ทราบสถานการณ์ที่ชัดเจน โดยในปี 2558 ว้าและไทใหญ่เคยมีเหตุตึงเครียดมาแล้วครั้งหนึ่ง และดูเหมือนความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองฝ่ายจะราบรื่น จนมาเกิดเหตุการณ์สู้รบเมื่อวันที่ 5 เมษายน 2565 ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า มีการเกณฑ์ทหารใหม่จากกลุ่มติดอาวุธหลายกลุ่ม โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ชนบทรอบนอก ทำให้ชาวบ้านที่มีลูกชายพากันอพยพหนีเข้าในตัวเมืองแสนหวี บางส่วนส่งลูกชายไปบวชเรียนหรือไปหางานทำในประเทศเพื่อนบ้านอย่างจีนและไทย
“ช่วงนี้เป็นช่วงที่มีการเกณฑ์ทหารใหม่ ใครที่มีลูกชายหลายคนหรือคนเดียวต่างก็พากันหนีหรือไม่กล้าอยู่ หากเป็นหมู่บ้านไทใหญ่ ทหารไทใหญ่ก็มาเกณฑ์ชายไทใหญ่ หากเป็นหมู่บ้านปะหล่อง หรือคะฉิ่น ทหารจากกลุ่มนั้นก็มาเกณฑ์ไป ชาวบ้านต่างอยู่ไม่เป็นสุขสักหมู่บ้าน ชาวบ้านต่างพากันหนีแทบจะไม่เหลือใคร” หญิงชาวบ้านรายหนึ่งในเมืองแสนหวี ทางเหนือของรัฐฉาน กล่าว
ข่าวแจ้งว่า หากครอบครัวใดมีลูกชาย 2 คน ก็จะต้องส่งลูกชายคนใดคนหนึ่งไปเป็นทหารไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ก็ตามโดยในบางหมู่บ้านกลุ่มติดอาวุธข่มขู่ว่า หากครอบครัวไหนหนีไปอยู่ที่อื่นก็จะยึดบ้านทันที ทำให้ครอบครัวบางส่วนไม่กล้าหนีไปไหน หลายครอบครัวที่หนีเข้ามาตั้งรกรากในเมืองแสนหวีเพื่อหนีการถูกเกณฑ์ไปเป็นทหาร ทำให้ราคาที่ดินในตัวเมืองแสนหวีขยับสูงขึ้นตามไปด้วย ซึ่งในเมืองแสนหวีนั้นมีหลายกลุ่มติดอาวุธเคลื่อนไหวอยู่ทั้งกองกำลังโกก้าง MNDAA กองกำลังปะหล่อง TNLA กองทัพรัฐฉานเหนือ SSPP/SSA กองทัพคะฉิ่น KIA และกองทัพพม่า โดยกลุ่มติดอาวุธเหล่านี้ต่างพึ่งพิงเช่น อาหารและกำลังพลจากประชาชนในพื้นที่