เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ภายหลังจากที่เพจและเว็บไซต์หน่วยงานทหารไทยที่ปฏิบัติหน้าที่บริเวณชายแดนไทย-พม่า รวมทั้งตำรวจตระเวนชายแดน ได้เผยแพร่กิจกรรมและภาพข่าวนายทหารไทยพื้นที่ต่างๆ พบปะและมอบข้าวของและของขวัญให้นายทหารกองทัพพม่าที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยสื่อสังคมออนไลน์ท้องถิ่นในพม่าต่างๆ นำเสนอภาพข่าวพร้อมตั้งคำถามถึงความเหมาะสม อย่างไรก็ตามภายหลังจากที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จำนวนมาก ทำให้เพจของหน่วยงานด้านความมั่นคงเหล่านี้หลายแห่งทยอยกันลบภาพข่าวกิจกรรมดังกล่าว
ทั้งนี้ในเว็บไซต์ www.armyprcenter.com ของกองทัพบกไทย ระบุว่า “พบปะพัฒนาสัมพันธ์-ประสานความร่วมมือ ตามแนวชายแดนไทย-เมียนมาร์”
“กองกำลังนเรศวร โดย หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 35 จัดกิจกรรมพบปะพัฒนาสัมพันธ์ในระดับพื้นที่ โดย ผบ.ฉก.ทพ.35 พบปะและประสานความร่วมมือ กับผู้บังคับหน่วยทหารเมียนมาร์ในพื้นที่รับผิดขอบตามแนวชายแดน เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลสถานการณ์ในพื้นที่ตามแนวชายแดน
“รวมทั้งหารือในการร่วมกัน ป้องกัน สกัดกั้นการกระทำผิดตามแนวชายแดน เช่น การลักลอบขนแรงงานต่างด้าว ,ขบวนการค้าอาวุธสงคราม, การลักลอบนำรถข้ามแดนและยาเสพติด พร้อมทั้งยังเป็นช่องทางประสานการปฏิบัติกรณีมีเหตุการณ์/สถานการณ์ในพื้นที่ สามารถประสานการปฏิบัติงานร่วมกันในพื้นที่ชายแดนให้เกิดความสงบเรียบร้อย
“ในการนี้ ผบ.ฉก.ทพ.35 ได้มีการมอบกระเช้าของฝาก โดยในห้วง 13-15 เม.ย.65 ถือเป็นห้วงวันขึ้นปีใหม่ของไทยซึ่งตรงกับวันสงกรานต์เพื่อเป็นการรักษาวัฒนธรรมอันดีงาม และเป็นการแสดงออกถึงมิตรไมตรีที่ดีของทั้งสองประเทศ” เว็บไซต์ของกองทัพบก ระบุ
ขณะที่เพจของกรมทหารพรานที่ 36 ระบุว่า “นักรบชุดดำ ยังคงเข้มแข็ง ในห้วงเทศกาลสงกรานต์ ในการปกป้องผืนแผ่นดินไทย และการช่วยเหลือประชาชน
“ผบ.ฉก.ทพ.36 ตรวจเยี่ยมกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ตามจุดบริการประชาชน ในห้วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ และฐานปฏิบัติการต่าง ๆ ตามแนวชายแดน ด้าน จ.แม่ฮ่องสอน เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ พร้อมกับพบปะพัฒนาสัมพันธ์ ทมม.(ทหารเมียนมา) เพื่อขอความร่วมมือในการป้องกันไฟป่า และหมอกควัน ซึ่งได้รับความร่วมมือจาก ทมม. เป็นอย่างดี”
ด้านเพจของ The Karen Post ได้นำภาพข่าวกิจกรรมของทหารไทยและทหารพม่าไปเผยแพร่ พร้อมกับเขียนโจมตีกิจกรรมดังกล่าว
อนึ่ง บทบาทของทหารไทยเป็นที่จับตามองเป็นอย่างยิ่งในบริเวณชายแดนไทย-พม่า ภายหลังจากเกิดสถานการณ์การสู้รบระหว่างกองทัพพม่าและกองกำลังติดอาวุธต่างๆ รุนแรงขึ้น เนื่องจากทหารไทยเป็นตัวแปรสำคัญ อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้กองทัพไทยเคยถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักกรณีข้าวสาร 700 กระสอบ ซึ่งให้ใช้พื้นที่ประเทศไทยลำเลียงเสบียงให้กับทหารพม่าที่ประจำอยู่ตามฐานริมแม่น้ำสาละวิน ขณะเดียวกันทหารไทยยังถูกโจมตีเรื่องการสกัดกั้นความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมสำหรับชาวบ้านกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ที่หนีภัยการสู้รบและข้ามมาหลบในพื้นที่ปลอดภัยฝั่งไทย