เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2565 สำนักข่าว Irrawaddy รายงานว่า การปฏิบัติการโจมตีทางอากาศและการลอบวางเพลิงของกองทัพพม่าในรัฐคะเรนนี ล่าสุดทำให้มีพลเรือนเสียชีวิตเพิ่มอีก 10 ราย ในจำนวนนี้มีเด็กอายุ 8 ขวบ รวมอยู่ด้วยและมีบ้านเรือนได้รับความเสียหายทั้งสิ้น 128 หลังคาเรือน และยังทำให้ชาวบ้านอีก 15 คนถูกจับกุมขังไว้ โดยข้อมูลดังกล่าวได้รับการเปิดเผยจากกลุ่มสิทธิมนุษยชนในรัฐคะเรนนี
ขณะที่กลุ่ม The Progressive Karenni People’s Front (PKPF) ออกมาเปิดเผยว่า นับตั้งแต่กองทัพพม่ายึดอำนาจ มีประชาชนในรัฐคะเรนนีต้องถูกสังหารแล้ว 257 ราย สาเหตุการเสียชีวิตส่วนใหญ่ของชาวบ้านมาจากสาเหตุถูกทหารพม่าฆ่าตามอำเภอใจและจากการถูกปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ในพื้นที่ที่มีประชาชนถูกสังหารมากที่สุดคือเมืองเดโมโส่ และเป็นพื้นที่อันตรายที่ยากในเข้าถึงและเก็บข้อมูล
ทางกลุ่ม PKPF ยังระบุว่า การเก็บข้อมูลของทางกลุ่มนั้น ต้องเดินทางไปพร้อมกับทหาร PDF เพื่อไปให้เห็นสถานการณ์ในพื้นที่ด้วยตัวเอง นอกจากนี้ยังระบุว่า ปัญหาเรื่องความปลอดภัยเป็นปัญหาท้าทายสำหรับการลงพื้นที่เก็บข้อมูล
ด้านกลุ่มนักวิจัยอิสระในนาม Data for Myanmar ได้ออกมาเปิดเผยว่า กองทัพพม่าได้เผาทำลายบ้านเรือนเสียหาย 11,417 หลังคาเรือน ในพื้นที่ 296 แห่ง โดยบ้านเรือนใน 10 รัฐได้รับความเสียหาย และเขตสะกาย เขตมะกวย รัฐชินและรัฐคะเรนนี ได้รับความเสียหายมากที่สุด อย่างไรก็ตาม มีการคาดการณ์กันว่า ตัวเลขบ้านเรือนที่ถูกเผาน่าจะสูงกว่าที่ทางกลุ่มออกมารายงาน
ทั้งนี้การละเมิดสิทธิมนุษยชนอื่นๆ โดยกองทัพพม่าที่พบเห็นในพื้นที่เหล่านี้คือ การใช้ชาวบ้านเป็นโล่มนุษย์ การฆ่าสังหารตามอำเภอใจ การสังหารหมู่ การเผาทั้งเป็น การปล้นสะดม และการเผาทำลายบ้านเรือนเป็นต้น
“กองทัพได้โจมตีด้วยทุ่นระเบิดใกล้หมู่บ้านของเรา พวกเขาเข้ามาเผาทำลายหมู่บ้าน เราสูญเสียบ้าน สัตว์เลี้ยง และเครื่องมือทางการเกษตร” ชาวบ้านในเขตสะกายรายหนึ่งกล่าว อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ประชาชนในเขตสะกายจะเป็นพื้นที่ที่ถูกกวาดล้างโจมตีอย่างหนักจากกองทัพพม่า แต่ประชาชนในพื้นที่นี้ก็ยังคงแข็งขันต่อต้านทหารพม่ารายวัน
