
สำนักข่าว SHAN รายงานเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2565 ว่าตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงเดือนมิถุนายน 2565 ชายทุกวัยในเมืองสี่แส่ง เขตรัฐฉาน ประเทศพม่า ได้เดินทางลักลอบเข้าประเทศไทยทุกวัน เหตุกองกำลังชาติพันธุ์ติดอาวุธ PNO (Pa-O National Organization) บังคับเกณฑ์ทหารใหม่และเรียกเก็บเงินทุกหลังคาเรือนในเขตควบคุมของตน ประกอบกับค่าครองชีพแพงขึ้นและเศรษฐกิจไม่ดี นับตั้งแต่พม่าเข้าสู่วิกฤติการเมือง ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ตัดสินใจหางานทำในประเทศเพื่อนบ้าน
“นับตั้งแต่ PNO ประกาศเกณฑ์ทหารใหม่ เรียกเก็บเงินในระยะเวลาเดือนกว่า คนในพื้นที่จำนวนมากพากันหนีเข้าประเทศไทย หนีไปไทยเกือบทุกวัน ที่เหลืออยู่ก็จะมีแต่คนแก่และเด็กเท่านั้น” ชาวบ้านในพื้นที่ให้สัมภาษณ์ และว่า มีรถมารับชาวบ้านไปยังชายแดน โดยชาวบ้านจะต้องเสียเงินให้นายหน้าที่พาไปคนละกว่า 18,000 บาท และจากชายแดนเข้าไปในตัวเมืองชั้นในของไทยจะต้องจ่ายเงินให้นายหน้าอีกทอดหนึ่ง รวมทั้งสิ้นจะต้องจ่ายราว 28,000 ให้กับนายหน้า
“สาเหตุที่คนในพื้นที่ถึงหนีไปประเทศไทย อย่างเรื่องการเพาะปลูก ค่าปุ๋ยกระสอบหนึ่งก็ปาเข้าไป 9 หมื่นถึง 1 แสนจั้ต (ราว 1,689 – 1,877 บาท) ยังไม่รวมค่าน้ำมัน ค่าแรง ค่าครองชีพขึ้นทุกอย่าง ในระหว่างนี้ ทหาร PNO ยังเรียกเก็บเงินหลังละ 3 หมื่นจั้ต ไม่ให้ก็ไม่ได้” ชาวบ้านกล่าว
ทั้งนี้ นับตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ไม่เฉพาะในเมืองสี่แส่งเท่านั้น ในเมืองโหโปง ป๋างลอง ซึ่งอยู่ในเขตของ PNO ชาวบ้านในพื้นที่ต้องจ่ายเงิน ข้าวสารและแจ้งรายชื่อสมาชิกครอบครัวของแต่ละบ้าน เพื่อเป็นทหารใหม่
อีกด้านหนึ่ง ชาวบ้านที่หนีภัยสงครามจากชายแดนรัฐฉานและรัฐคะเรนนี เข้ามาอาศัยอยู่ในเมืองสี่แส่งจำนวนมาก และยังไม่สามารถกลับบ้านของตัวเองไดั เนื่องจากสงครามยังเกิดขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่กองทัพ PNO นั้นมีกำลังพลราว 400 – 700 คน ควบคุมในพื้นที่เมืองสี่แส่ง เมืองป๋างลองและเมืองโหโปง ทางใต้ของรัฐฉาน