เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2565 แหล่งข่าวจากหน่วยงานด้านความมั่นคงบริเวณชายแดนไทย-พม่าด้านจังหวักตาก เปิดเผยว่า ในช่วงเย็นวันเดียวกันนี้ได้มีชาวบ้านซึ่งเป็นชาวกะเหรี่ยง จำนวนกว่า 300 คน ได้อพยพหนีภัยจากการสู้รบระหว่างสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) และกองทัพพม่า โดยชาวบ้านกลุ่มนี้ได้เข้ามาหลบภัยชายแดนด้านอำเภอพบพระ ทั้งนี้การประทะระหว่างทหารฝ่ายกะเหรี่ยงกับกองทัพพม่ายืดเยื้อมาตั้งแต่วันที่ 26 มิถุนายน เนื่องจากกองกำลังร่วมของ KNU ซึ่งประกอบไปด้วยองค์กรป้องกันแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNDO) และกองกำลังปลดปล่อยประชาชนกะเหรี่ยง (Karen National Liberation Army :KNLA)กองพล 6 รวมทั้งกองกำลังพันธมิตรได้บุกยึดฐานที่มั่นทางทหารใกล้หมู่บ้านอูแกร้ท่า ของกองทัพพม่า
แหล่งข่าวระบุว่า ฐานที่มั่นทหารอูแกร้ท่านั้น ตั้งอยู่บนถนนซึ่งอยู่ในพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญเชื่อมไปยังเมือง วาเลย์ ที่มักถูกใช้เป็นเส้นทางลำเลียงเสบียงโดยกองบัญชาการกองทัพพม่า รวมทั้งการเสริมกำลังเข้ามาในพื้นที่ โดย KNU ได้ยึดฐานที่มั่นสำคัญๆหลายแห่งของกองทัพพม่าในรัฐกะเหรี่ยงตลอดช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เช่นฐานที่มั่นสำคัญ มอคี เมื่อเดือนมีนาคม ฐานที่มั่นเส่บอโบ เมื่อเดือนพฤษภาคม รวมทั้งการโจมตีสถานีตำรวจพม่าที่เขต วาเลย์ เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน ที่ผ่านมา ซึ่งเหตุการณ์นี้ทำให้ตำรวจพม่าเสียชีวิตหลายราย และทหารฝ่ายต่อต้านกองทัพพม่าที่ถูกจับกุมยังสถานีตำรวจดังกล่าวได้รับการปล่อยตัว
“เป็นการประทะที่รุนแรงเท่าที่เกิดขึ้นในห้วงเวลานี้ โดยมีรายงานว่าปืนใหญ่ขนาด 120 มม. ตกลงมายังฝั่งประเทศไทยหลายลูกบริเวณชายแดนบ้านมอเกอร์ไทย อ.พบพระ จ.ตาก และในวันนี้มีชาวบ้านจากรัฐกะเหรี่ยงกว่า 300 คนได้อพยพเข้ามาในประเทศไทย ซึ่งทางการไทยยังไม่อนุญาตให้ผู้บริจาคเข้าไปให้ความช่วยเหลือใดๆ และปิดถนนที่ใช้สัญจรแนวถนนเรียบบริเวณชายแดนเพื่อความปลอดภัย ขณะที่ทางกองทัพพม่าได้ปฏิบัติการทางอากาศอย่างต่อเนื่องมา 3 วันแล้ว” แหล่งข่าวระบุ
แหล่งข่าวกล่าวว่า ช่วงเย็นวันที่ 28 มิถุนายน 2565 ทหารกะเหรี่ยงได้เข้ายึดฐานที่มั่นอูเกร้ท่าของทหารพม่าได้แต่ต่อมาทางพม่าได้ส่งกำลังกลับเข้าไปควบคุมฐานและ มีการปะทะอีกครั้งในช่วงเช้ามืดของเช้าวันที่ 29 มิถุนายน การปะทะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน
ขณะที่สำนักข่าว Irrawaddy รายงานกองทัพพม่าได้ตอบโต้ด้วยการโจมตีทางอากาศ ทำให้ทั้งสองฝ่ายต่างประสบความสูญเสียโดยชาวบ้านในพื้นที่ระบุว่าเป็นสงครามสู้รบดุเดือดที่สุดเท่าที่เคยเห็นมานับตั้งแต่ปีที่แล้ว
ส่วนสำนักข่าว Myanmar Now รายงานว่า กองทัพพม่าได้โจมตีทางอากาศและปืนใหญ่ในหมู่บ้าน อูแกร้ท่า อย่างหนัก เด็กเล็กในหมู่บ้านต่างร้องไห้ระงมเพราะตกใจเสียงปืนและระเบิดที่ดังสนั่นหวั่นไหว ชาวบ้านในหมู่บ้านได้อพยพออกจากในพื้นที่ หลายครอบครัวพลัดพราก
อย่างไรก็ตามเหตุปะทะกันที่ดำเนินมาตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้ทั้งสองฝ่ายยังไม่ออกมารายงานความสูญเสีย แต่ทาง KNDO ยอมรับว่า ได้สูญเสียนักรบรายหนึ่ง ซึ่งก็คือสิบโทหว่ายลินอ่อง ซึ่งก็เคยเป็นทหารพม่าแต่ตัดสินใจออกจากกองทัพเมื่อปีที่แล้ว และเข้าร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับกลุ่มติดอาวุธกะเหรี่ยง