สื่อพม่าอย่างสำนักข่าว Irrawaddy และ Chindwin News Agency ออกมารายงานวานนี้ (6 กรกฏาคม 2565) ว่า การค้าขายบริเวณชายแดนพม่า – อินเดีย ในเมืองทะมุ เขตสะกาย ประเทศพม่าต้องหยุดชะงักทันที หลังกองกำลังติดอาวุธ “ปิ่ว ซอ ที” ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกองทัพพม่าสังหารชายชาวอินเดียเชื้อสายทมิฬเสียชีวิต 2 ราย ใกล้กับเมืองทะมุ โดยรายหนึ่งอายุ 38 ปี ส่วนอีกรายอายุ 28 ปี โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 5 กรกฏาคมที่ผ่านมา โดยชายทั้งสองรายถูกยิงในระหว่างซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์เพื่อไปงานวันเกิดของเพื่อน
จากรายงานของกองกำลังป้องกันชาวทะมุ (Tamu People’s Defense Force – PDF) ทั้งสองคนถูกยิงใกล้กับหมู่บ้าน แฮสิ่น ซึ่งเป็นพื้นที่ที่กองกำลังติดอาวุธ “ปิ่ว ซอ ที” ประจำการอยู่โดยชายชาวอินเดียทั้งสองปฏิเสธที่จะหยุดรถหลังถูกกลุ่ม ปิ่วซอที เรียกตรวจ เนื่องจากความกลัวว่าจะเกิดอันตราย ทำให้ทหารของกลุ่มปิ่วซอทียิงทั้งสองคนเสียชีวิต แต่ภายหลังจึงทราบว่า ชายชาวอินเดียทั้งสองนั้นมาจากเมือง Moreh รัฐมณีปุระ ซึ่งเป็นเมืองที่ติดชายแดนกับเมืองทะมุ ฝั่งเขตสกาย ประเทศพม่า โดยทั้งสองคนนั้นเป็นพ่อค้าและทำธุรกิจเกี่ยวกับแลกเงิน
ทั้งนี้ชายแดนเมือง Moreh – เมืองทะมุนั้น เป็นช่องทางหลักในการส่งสินค้าจากพม่าไปยังอินเดีย ประชาชนร้อยละ 70 พึ่งพาการค้าขายตรงชายแดนแห่งนี้ และในแต่ละวันมีชาวบ้านจำนวนมากจากฝั่งเมือง Moreh ข้ามมายังเมืองทะมุด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุยิงชาวอินเดียเสียชีวิต ทำให้พ่อค้าแม่ค้าจากฝั่งพม่าหวาดกลัวไม่กล้าข้ามไปยังฝั่งอินเดีย

“ตอนนี้ไม่มีใครกล้าข้ามไปฝั่งเมือง Mareh เนื่องจากชาวอินเดียกำลังโกรธแค้น หลังได้ยินเหตุสังหาร ผู้คนต่างกลัวว่า พวกเขาจะถูกทุบตีหรือถูกยิงหากข้ามไปที่นั่น” ชาวทะมุรายหนึ่งกล่าว
ขณะที่ชาวบ้านจากเมือง Moreh ราว 200 คน ได้รวมตัวกันที่สนามฟุตบอลแห่งหนึ่ง โดยชาวบ้านจากฝั่งอินเดียได้ร้องขอให้คืนร่างของผู้เสียชีวิตทั้งสองราย ซึ่งการประท้วงจากชาวบ้านฝั่งอินเดียเริ่มขึ้นเมื่อเวลา 10.30 น.จนกระทั่งถึงเวลา 14.00 น. ชาวบ้านจากฝั่งอินเดียยังไม่ได้รับคำตอบจากเจ้าหน้าที่ตำรวจพม่าในเมืองทะมุ จึงเริ่มโกรธแค้นและได้เผาทำลายป้อมยามตำรวจที่ตั้งอยู่ตรงชายแดนระหว่างทั้งสองประเทศ
“เราจะเดือดร้อน หากปัญหานี้ไม่ได้การแก้ไข” ผู้ค้าในเมืองทะมุกล่าว ขณะที่กองทัพอินเดียได้พยายามสอบถามไปยังกองทัพพม่าเพื่อรับร่างชาวอินเดียทั้งสองกลับบ้าน และสอบถามเหตุใดชาวอินเดียถึงถูกสังหารในพม่า