
สำนักข่าว Irrawaddy รายงานเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2565 โดยอ้างอิงมาจากกลุ่ม Institute for Strategy and Policy – Myanmar ซึ่งมีการเก็บข้อมูลจนถึงวันที่ 15 กรกฎาคม 2565 พบว่า นับตั้งแต่ยึดอำนาจ กองทัพพม่าได้เผาทำลายบ้านเรือนของชาวบ้าน รวมไปถึงศาสนสถานเสียหายมากกว่า 28,000 หลังคาเรือน/แห่ง
ทั้งนี้บ้านเรือนหรือศาสนสถานที่ได้รับความเสียหายเหล่านี้ ถูกโจมตีและถูกเผาโดยกองทัพพม่า เกิดขึ้นทั้งในเขตสะกาย เขตมะกวย เขตมัณฑะเลย์ เขตตะนาวศรี เขตพะโค เช่นเดียวกับในรัฐชินเ รัฐฉาน รัฐคะเรนนี รัฐมอญ และรัฐกะเหรี่ยง อย่างไรก็ตาม เขตสะกายเป็นพื้นที่ได้รับผลกระทบหนักสุด เพราะมีบ้านเรือนของชาวบ้านถูกเผาทำลายเสียหายกว่า 20,485 หลังคาเรือน
อีกด้านหนึ่ง มูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนไทใหญ่ (SHRF) ได้ออกรายงานว่า นับตั้งแต่กลางเดือน พ.ค.2565 ที่ผ่านมา มีบ้านเรือนของชาวบ้านมากกว่า 100 หลังคาเรือนถูกทหารพม่าเผาเสียหาย โดยเฉพาะในตำบลหลอยเปา ทางตะวันออกของทะเลสาบเมืองปาย ตั้งอยู่ในเมืองผายขุน หรือเมืองเป่โก่ง ทางใต้ของรัฐฉาน ประชาชนมากกว่า 4,000 คนที่บ้านเรือนถูกเผากำลังได้รับความลำบากและต้องลี้ภัยสงครามกลางเมือง
การเผาทำลายบ้านเรือนชาวบ้านเป็นมาตรการตอบโต้จากทางทหารพม่า โดยเริ่มเกิดขึ้นหลังจากถูกทางกลุ่ม PDF ในพื้นที่ได้โจมตีด่านในหมู่บ้านทีรี บนทางหลวงที่เชื่อมระหว่างเมืองหยองห้วยไปยังเมืองปาย เมื่อวันที่ 12 พ.ค.2565 ซึ่งด่านแห่งนี้เป็นของกองทัพพม่าร่วมกับองค์กรแห่งชาติปะโอ(PNO)
ข้อมูลของ SHRF เปิดเผยว่ากองทัพพม่าได้เผาบ้านเรือนของชาวบ้านเป็นระยะๆ หลังปะทะกับกลุ่ม PDF ในพื้นที่นับตั้งแต่กลางเดือน พ.ค.2565 เป็นต้นมา รวมบ้านเรือนที่ถูกเผาทั้งสิ้นมีมากกว่า 100 หลังคาเรือน ประชาชนในพื้นที่เป็นชาวไทใหญ่ และส่วนใหญ่เพาะปลูกข้าวโพด ข้าวและอาโวคาโด เหตุความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือนร้อนเพราะไม่สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตรได้
ขณะที่สำนักข่าว SHAN รายงานว่า กองทัพพม่าได้นำเครื่องบินวนรอบเมืองสู้ ทางใต้ของรัฐฉาน รวมทั้งส่งกำลังพลและอาวุธมาในพื้นที่เป็นจำนวนมาก หลังกองทัพรัฐฉานเหนือ SSPP/SSA ส่งจดหมายถึงกองทัพพม่าว่าจะไม่ถอนกำลังออกจาก 3 พื้นที่ในเขตเมืองสู้ตามที่กองทัพพม่าสั่ง ความตึงเครียดทางทหารระหว่างทั้งสองฝ่ายเกิดขึ้นมาตั้งแต่เมื่อเดือนที่แล้ว