เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2565 ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) ตัวแทนชาวบ้านบางกลอย อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี จำนวน 4 คน และ น.ส.พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ ผู้อำนวยการมูลนิธิผสานวัฒนธรรม ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือเพื่อขอให้รัฐมนตรี ทส.อุทธรณ์คำสั่งให้ทุเลาการบังคับตามคำพิพากษากรณีรับนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ออกจากราชการ (คัดค้านการกลับเข้าราชการ)
น.ส.จันทร์ ต้นน้ำเพชร เยาวชนบางกลอย กล่าวว่าปัญหาต่างๆในกลุ่มป่าแก่งกระจานเริ่มต้นตั้งแต่สมัยนายชัยวัฒน์ ดังนั้นเมื่อได้ยินชื่อว่านายชัยวัฒน์จะกลับเข้ารับราชการทำให้ชาวบ้านต่างรู้สึกหวาดกลัวและทุกคนต่างเครียดโดยสอบถามตนซึ่งก็ตอบไม่ได้จึงเดินทางมายื่นหนังสือเพื่อต้องการคำมั่นว่านายชัยวัฒน์จะไม่กลับมารับราชการอีก
“ยิ่งถ้าแม่หนูที่กำลังไม่สบายได้ยิน หนูไม่อยากให้แม่ได้ยินเลยว่านายชัยวัฒน์จะกลับเข้ารับราชการอีก เราไม่ถึงกับเกลียดขี้หน้านายชัยวัฒน์ แต่เป็นแผลในใจของชาวบ้าน ทั้งญาติของนายบิลลี่(รักจงเจริญ)ที่หายไป หรือญาติปู่คออี้ที่ถูกเผาบ้าน แถมคนที่ถูกคดีต่างๆอีก ทำให้พวกเรารู้สึกกังวลไม่อยากให้รับนายชัยวัฒน์กลับเข้ารับราชการอีก”น.ส.จันทร์ กล่าว
ด้าน น.ส.พรเพ็ญ กล่าวว่าต้นเหตุเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2554 ที่ได้มีการเผาบ้านพักและยุ้งฉางของชาวบ้าน 98 หลังและบังคับให้ลงจากใจแผ่นดินมาอยู่ที่บางกลอยล่างโดยไม่มีการจัดสรรที่ดินให้ตามสัญญาโดยศาลปกครองสูงสุดได้ตัดสินว่าการกระทำของกรมอุทยานแห่งชาติฯผิดกฎหมายและต้องชดใช้เงินให้ปู่คออี้และชาวบ้านผู้ฟ้องคดีทั้ง 6 ดังนั้น คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ(ป.ป.ท.)ได้ชี้มูลว่านายชัยวัฒน์กระทำความผิดมาตรา157 และทำหนังสือข้อเสนอถึงกระทรวง ทส.ให้นายชัยวัฒน์ออกจากราชการและลงโทษทางวินัย ดังนั้นคำสั่งของ ทส.ที่ให้นายชัยวัฒน์ออกจากราชการจึงถูกกฎหมาย
“ชาวบ้านต้องการให้กระทรวง ทส.โดยเฉพาะรัฐมนตรีและปลัดกระทรวง ทส.และประธาน ป.ป.ท.ซึ่งเป็นผู้ถูกร้องในศาลปกครองยื่นอุทธรณ์เพื่อไม่ให้นายชัยวัฒน์กลับเข้ารับราชการ ทั้ง 3 คนต้องร่วมกันทำหน้าที่เพื่อให้เกิดความมั่นใจกับชาวบ้านว่านายชัยวัฒน์จะไม่ได้กลับมาเข้ารับราชการ เพราะนายชัยวัฒน์ไม่ได้มีแค่คดีนี้เพียงคดีเดียว แต่ยังมีคดีที่ถูกตั้งข้อหาเกี่ยวกับการตายของนายบิลลี่ซึ่งขณะนี้ดีเอสไอได้ส่งสำนวนข้อหาฆ่าไปแล้วที่อัยการ และอัยการกำลังพิจารณาอยู่”น.ส.พรเพ็ญ กล่าว
น.ส.พรเพ็ญกล่าวว่าขณะนี้หลายเรื่องกำลังทับถมซึ่งหากนายชัยวัฒน์กลับเข้ารับราชการ ชาวบ้านก็จะเดือดร้อน นอกจากนี้ยังมีข้อหาต่างๆเกี่ยวกับการทุจริตในผืนป่าแก่งกระจาน เช่น เรื่องการปลูกป่า ซึ่งขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังไม่ได้ดำเนินการให้เกิดความมั่นใจว่าชาวบ้านจะอยู่ในพื้นที่อย่างปลอดภัย
