
สำนักข่าว Development Media Group รายงานว่าเมื่อวันที่ 14 กันยายน 2565 ว่า ชาวนาใน 10 หมู่บ้านของเมืองปะแล็ตวา รัฐชิน ทางภาคตะวันตกของประเทศพม่ากำลังเผชิญกับภัยสงครามรอบใหม่ระหว่างกองทัพพม่าและกองทัพอาระกัน โดยชาวนาเหล่านี้ต้องกลายเป็นผู้พลัดถิ่นภายในเพราะสงคราม นอกจากนี้ ชาวบ้านเหล่านี้ไม่สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตรได้ เพราะกลัวถูกโจมตีจากทหารพม่าและกับระเบิดที่ถูกวางไว้รอบๆนาข้าว
“ข้าวสามารถเกี่ยวได้แล้วตั้งแต่เมื่อต้นเดือนกันยายน แต่เราไม่สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ เนื่องจากเราต้องหนีจากบ้าน เพื่อไปอยู่ในสถานที่ที่ปลอดภัยกว่า” ชาวบ้านรายหนึ่งกล่าว
รายงานแจ้งว่า ชาวเมืองปะแล็ตวาต่างหวาดกลัวที่จะไปในนาข้าวของตน เนื่องจากกลัวถูกซุ่มโจมตีจากพื้นที่สูง และหวั่นถูกเหยียบโดนกับระเบิด เนื่องจากก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2565 มีชาวบ้านรายหนึ่งเหยียบกับระเบิดและได้รับบาดเจ็บสาหัส
“หากผลผลิตไม่ได้ถูกเก็บเกี่ยวในช่วงเวลาเก็บเกี่ยว นาข้าวก็จะเสียหาย เราปลูกข้าวก็แก้ปัญหาวิถีชีวิของเรา หากเราไม่สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ เราก็ไม่มีรายได้และเผชิญกับความหิว” นายอ่องข่าย เอหม่อง ชาวบ้านจากในพื้นที่กล่าว
ด้านอาสาสมัครรายหนึ่งที่ช่วยเหลือผู้พลัดถิ่นภายในให้ข้อมูลว่า ชาวนาที่ต้องกลายเป็นผู้พลัดถิ่นภายในและต้องหนีสงครามมีโอกาสน้อยมากที่จะได้กลับไปเก็บเกี่ยวผลผลิตของพวกเขา
“หากพวกเขาไม่มีรายได้ ย่อมส่งผลกระทบไปด้วยในด้านการศึกษาของลูกๆของพวกเขา รวมไปถึงในด้านสุขภาพ และหากความขัดแย้งยังดำเนินต่อไป ชาวนาเหล่านี้ก็เผชิญกับการสูญเสียอาชีพของพวกเขา และไม่สามารถกลับไปทำงานในภาคการเกษตรได้” อาสาสมัครรายนี้กล่าว
เขายังกล่าวด้วยว่า ยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ว่า พื้นที่ทางเกษตรจำนวนมากน้อยแค่ไหนที่ไม่สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ อย่างไรก็ตาม มีชาวบ้านจาก 10 หมู่บ้านในเมืองปะแล็ตวา รัฐชิน รวมถึงบางพื้นที่ในรัฐอาระกันที่มีชายแดนติดกัน กำลังได้รับผลกระทบจากสงครามรอบใหม่ระหว่างกองทัพพม่าและกองทัพอาระกัน (Arakan Army)
ขณะที่สำนักข่าว Irrawaddy รายงานว่า นางอองซาน ซูจี ผู้นำพรรคเอ็นแอลดีกำลังเผชิญกับปัญหาด้านสุขภาพหลายอย่าง เช่นหัวใจเต้นเร็วและยังเผชิญกับแมลงกัดต่อย ผื่นคันและลุกลามเป็นแผลติดเชื้อ เนื่องจากน้ำในเรือนจำไม่สะอาด
สื่อพม่าระบุว่า นางซูจีไม่เคยเผชิญกับปัญหาด้านสุขภาพมาก่อน แต่หลังจากถูกควบคุมตัวขังเดี่ยวในเรือนจำเนปีดอว์ตั้งแต่เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ผู้นำรายนี้กำลังเผชิญกับปัญหาสุขภาพหลายอย่าง นอกจากนี้ สภาพภายในเรือนจำในช่วงเวลากลางวันยังร้อนอบอ้าว
รายงานข่าวแจ้งว่าดอว์ซูจีถูกขังในห้องเล็กๆและเธอได้ร้องขอให้ทางเรือนจำติดตั้งผ้าม่านให้เธอตามบานประตูหน้าต่างทั้ง 6 บาน เพื่อลดความร้อนในห้อง แต่ทางเรือนจำติดตั้งผ้าม่านให้เธอแค่ 3 บาน
อีกความเคลื่อนไหวหนึ่ง ในเขตสะกาย มีรายงานว่า ทางกองทัพพม่าพยายามยัดข้อหาภายใต้มาตรา 122 นายโก่เหว่ โมนาย วัย 27 ปี นักเคลื่อนไหวคนสำคัญอีกคนหนึ่งที่ออกมาต่อต้านกองทัพพม่า ซึ่งโทษสูงสุดคือประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิต นับตั้งแต่รัฐประหาร โดยกองทัพพม่าได้สังหารประชาชนผู้บริสุทธิ์แล้วกว่า 2,273 คน และกองทัพพม่าได้พยายามยัดโทษประหารชีวิตกับกลุ่มที่ออกมาต่อต้าน เพื่อควบคุมสถานการณ์ในประเทศ