
เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2565 สำนักข่าว Irrawaddy รายงานว่า กองทัพเพื่อประชาชน (PDF) จำนวนทั้งสิ้น 24 กลุ่ม ได้รวมตัวอยู่ภายใต้กองพลที่ 1 ของสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) ซึ่งมีพื้นที่ควบคุมอยู่ในอำเภอตะโถ่ง รัฐมอญ
พะโด ซอตอนี โฆษกของ KNU เปิดเผยว่า มีการลงนามรวมตัวกันตั้งแต่เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา โดยกลุ่ม PDF ที่จะอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของกองพลที่ 1 ของ KNU จะต้องปฏิบัติตามกฎของ KNU ทั้ง 24 ข้อ เช่น ต้องเคารพประเพณีวัฒนธรรมของคนท้องถิ่น และต้องละเว้นจากพฤติกรรมการลักพาตัว การขู่กรรโชก และการเรียกค่าไถ่ เป็นต้น
โฆษกของ KNU กล่าวว่า มีกลุ่มติดอาวุธทั้งสิ้น 30 กลุ่มที่ต้องการจะเข้ามาอยู่ภายใต้ของกองพลที่ 1 แต่ KNU ไม่ได้รับทั้งหมดด้วยเหตุผลบางประการ โดยรับเฉพาะกลุ่มที่เชื่อฟังและทำตามกฎของ KNU เท่านั้น
ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่า กลุ่ม PDF ภายใต้การบัญชาการของ KNU นั้นเคลื่อนไหวและปฏิบัติงานอย่างอิสระ ทั้งนี้ KNU มีทั้งหมด 7 กองพล และแต่ละกองพลก็มีอำนาจของตนเองและไม่มีการควบคุมจากส่วนกลาง ขณะที่ PDF ที่อยู่ภายใต้ของกองทัพเอกราชคะฉิ่น (KIA) และทุกกองพลของ KIA นั้นต้องขึ้นตรงอยู่ภายใต้คำสั่งของสำนักงานใหญ่
นักวิเคราะห์มองว่า KIA มีการรวมศูนย์บังคับบัญชาที่มีประสิทธิภาพมากกว่า อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่เกิดการยึดอำนาจในพม่า กองพลที่ 1 ของ KNU ได้สู้รบปะทะกับกองทัพพม่าอยู่เป็นระยะๆ รวมทั้งสิ้น 39 ครั้ง ฝ่ายทหารพม่าสูญเสีย 48 นาย ส่วนทหารของ KNU สูญเสีย 5 นาย
แหล่งข่าวด้านความมั่นคงในชายแดนไทย-พม่า เปิดเผยกับสำนักข่าวชายขอบว่า การที่กองพลที่ 1 ต้องออกมาทำข้อตกลงอย่างเป็นทางการเนื่องจากมีกลุ่ม PDF อยู่ในพื้นที่หลายกลุ่มและมีการระดมเงินจากชาวบ้านจากบางกลุ่มสร้างความเดือดร้อนให้กับชุมชนในพื้นที่ของ KNU กองพลที่ 1 จึงออกจดหมายเตือน ต่อมาจึงมีการทำข้อตกลงร่วมกันกับ PDF ทั้งหมด 24 กลุ่ม ในพื้นที่ของเคเอ็นยูกองพลที่ 1 โดยอยู่ภายใต้การกำกับของเคเอ็นยู หากกลุ่มไหนละเมิดข้อตกลงจะถูกดำเนินคดีขั้นเด็ดขาดตามกฎหมายเคเอ็นยู
“จริงๆ แล้วความร่วมมือระหว่าง KNU และ PDF นั้น ไม่ใช่มีแค่กองพล 1 เท่านั้น แต่ความร่วมมือระหว่าง KNU กับ PDF เกิดขึ้นในทุกกองพล ทั้ง 7 แห่ง เพราะตั้งแต่เกิดรัฐประหารในพม่า ประชาชนที่ไม่เห็นด้วยจำนวนมากต่างหนีเข้ามาฝึกอาวุธอยู่กับกองกำลังต่างๆ ทั้ง KNPPของคะเรนนี KNU กะเหรี่ยง KIA ของคะฉิ่น ในส่วนของ KNU นั้น ได้วางโครงสร้างให้ 1 กองพันดูแลกลุ่ม PDF โดยเฉพาะ มีการฝึกอาวุธและการต่อสู้อย่างเข้มข้น ซึ่งเรื่องนี้ทหารพม่าก็รู้ดีและไม่พอใจเป็นอย่างมากจึงมุ่งโจมตี KNU และกลุ่มกองกำลังชาติพันธุ์ที่รับ PDFไว้” แหล่งข่าวกล่าว
———-
(อ่านเส้นทางการต่อสู้ของ PDF ได้ที่ https://transbordernews.in.th/home/?p=32428 )



