
เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2565 ที่อาคารสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (เดิม) ได้มีการประชุมคณะทำงานแก้ไขปัญหาและศึกษาแนวทางการจัดที่ดินทำกินให้กับชุมชนในรูปแบบโฉนดชุมชนภายใต้คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ(คทช.) โดยมี นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ทั้งนี้มีผู้เข้าร่วมประชุมประมาณ 50 คน ประกอบด้วยสมาชิกขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส. หรือพีมูฟ) และส่วนราชการ 11 หน่วยงาน อาทิ คทช. กรมป่าไม้ กรมอุทยานฯ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมที่ดิน กรมธนารักษ์ กรมเจ้าท่าสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (สปก.) การรถไฟแห่งประเทศไทย
ทั้งนี้ที่ประชุมได้พิจารณาศึกษาแนวทางการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนในรูปแบบโฉนดชุมชน โดยกำหนดพื้นที่เป้าหมายและการลงพื้นที่ศึกษาข้อเท็จจริง การดำเนินการ ปัญหาอุปสรรคในพื้นที่ยื่นคำขอเพื่อจัดให้มีโฉนดชุมชน โดยทุกหน่วยงานยินดีสนับสนุนนโยบายโฉนดชุมชน แต่บางหน่วยงานมีข้อจำกัดด้านกฎหมาย และยังไม่มีแนวทางและกระบวนการดำเนินการ

นายอธิพงษ์ ก่อผล ผู้แทนกรมป่าไม้ กล่าวว่า ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติดำเนินการโฉนดชุมชนได้ โดยสามารถขออนุญาตทำประโยชน์ในพื้นที่ลุ่มน้ำ 3,4,5 ส่วนในพื้นที่ลุ่มน้ำ 1,2 มีมติคณะรัฐมนตรี(ครม.) ห้ามใช้พื้นที่ แต่สามารถขอผ่อนผันมติครม.หรือขอให้อธิบดีใช้อำนาจตามมาตรา 19 รับรองสิทธิให้อยู่ในพื้นที่ได้
นายอิทธิพล ไทยกมล ผู้แทนกรมอุทยานฯกล่าวว่า วัตถุประสงค์ของ พ.ร.บ.อุทยาน กับโฉนดชุมชนเป็นไปในทิศทางเดียวกัน คือชุมชนท้องถิ่นดั้งเดิมสามารถอยู่ในพื้นที่ได้ ระบบการผลิตค่อนข้างสอดคล้องกันนโยบายโฉนดชุมชนโดยยกเลิกเกษตรเชิงเดี่ยว
นายอนุชา กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำต้องแก้ปัญหาความยากจน หากประชาชนฐานล่างมีรายได้เพิ่มขึ้นจะเป็นกำลังซื้อของแผ่นดิน การแก้ปัญหาที่ดินเป็นแนวทางหนึ่งในการแก้ไขปัญหาความยากจน วันนี้หน่วยงานผ่อนปรนกฎหมายไม่มีทิศทางขัดข้อง
ทั้งนี้ที่ประชุมเห็นชอบแนวทางดำเนินงานโฉนดชุมชนดังนี้ 1. จะมีการประชุมนอกรอบระหว่างสำนักนายกรัฐมนตรี คทช. หน่วยงานเจ้าของที่ดิน และตัวแทนพีมูฟ เพื่อหาบทสรุปกรณีข้อกฎหมายที่ยังติดขัด ใน 4 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่ 1 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ กรมป่าไม้ กรมอุทยานฯกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กลุ่มที่ 2 กรมที่ดิน กลุ่มที่ 3 สปก. กลุ่มที่ 4 การรถไฟฯ
2. จะมีการทำหนังสือถึงกระทรวง และผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ดำเนินงานโฉนดชุมชนโดยระบุว่ารัฐบาลกำลังดำเนินงานโฉนดชุมชนภายใต้คทช. ในระหว่างยกร่างระเบียบว่าด้วยโฉนดชุมชนให้ชะลอการดำเนินการที่ส่งผลกระทบกับชุมชนไว้ก่อน
3.จะมีการลงพื้นที่ศึกษาข้อเท็จจริง ปัญหาอุปสรรคในพื้นที่ยื่นคำขอโฉนดชุมชน 9 ชุมชน ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของ 9 หน่วยงาน 4. จะมีการจัดงานมหกรรมโฉนดชุมชน ที่จังหวัดภูเก็ต ในวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานจัดงาน

ด้าน นายจำนงค์ หนูพันธ์ ประธานพีมูฟ กล่าวว่า รัฐบาลรู้ว่าโฉนดชุมชนเป็นเป้าหมายหลักในการเจรจาของพีมูฟ แต่ไม่ได้ดำเนินการตามเป้าหมาย ยังยื้อเวลาให้ครบวาระ การลงพื้นที่อาจเป็นแนวทางในการหาเสียง การคุ้มครองพื้นที่โฉนดชุมชนตามวิถีชีวิต ยังไม่เป็นจริง ชาวบ้านถูกดำเนินคดีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เราเรียกร้องให้ทำหนังสือถึงจังหวัดหลายครั้ง แต่การดำเนินการล่าช้า ทำให้บางจังหวัดหน่วยงานไม่เชื่อมั่นในโฉนดชุมชน โดยมีการโจมตีโฉนดชุมชนว่ายังเป็นไข่อยู่ และเชียร์ให้ชาวบ้านเข้าร่วมกับ คทช.
“พีมูฟเชื่อว่าโฉนดชุมชนเป็นความมั่นคงของชีวิต เป็นความมั่นคงของทรัพยากรและอาหาร ชุมชนทำประโยชน์ร่วมกัน สืบทอดไปถึงลูกหลาน โฉนดชุมชนเป็นนโยบายของประชาชน แต่ คทช. เป็นนโยบายหาเสียงของรัฐบาลนี้ หากเปลี่ยนขั้วรัฐบาล คทช. อาจเปลี่ยนไปเป็นนโยบายอื่น” นายจำนงค์ กล่าว
/////////////////