Search

ชาวแม่สายสูดกลิ่นสารพิษมานานนับเดือน นายอำเภอเผยผลการตรวจเป็นไฮไดรเจนไซยาไนด์ แนะนำให้สวมหน้ากากตลอดเวลา ทางการพม่าสั่งปิดโรงงานหลังเปิดมา 4 เดือน ชาวบ้านเผยกลิ่นโชยไปไกลห่างจากชายแดนถึง 13 กม.

เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2565 จากกรณีที่ชาวบ้านแม่สาย จ.เชียงราย ได้รับกลิ่นเหม็นอย่างรุนแรงในยามค่ำคืนโดยเฉพาะช่วงหัวค่ำ มาเป็นเวลานานนับ 1 เดือนโดยไม่รู้แหล่งที่มา จนกระทั่งล่าสุดมีการเผยแพร่ภาพโรงงานเผาอิฐที่ใช้ถ่านหินลิกไนต์เป็นเชื้อเพลิงในฝั่งจังหวัดท่าขี้เหล็กของพม่าซึ่งคาดว่าจะเป็นแหล่งที่ปล่อยกลิ่นดังกล่าว โดยล่าสุดเจ้าหน้าที่ฝั่งไทยได้ร่วมกันตรวจสอบกลิ่นดังกล่าวพบว่าเป็นกลิ่นของ “ไฮโดรเจนไซยาไนด์” สารพิษ มีอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจ

นายณรงค์พล คิดอ่าน นายอำเภอแม่สาย เผยว่าทางอำเภอได้ออกหนังสือถึงกำนัน /ผู้ใหญ่บ้าน ในพื้นที่ตำบลแม่สาย โดยแจ้งผลการตรวจสอบของสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 (เชียงใหม่) ในวันที่ 10 พฤศจิกายนที่ผ่านมา พบว่า กลิ่นที่เกิดจากการเผาไหม้ในเวลากลางคืน เป็นกลิ่นของสารไฮโดรเจนไซยาไนด์ (Hydrogen cyanide:HCN) ผลการวัดค่าจากเครื่อง Muti RAE ได้ 0.5 ppm จากค่าปกติ 0.0 ppm จะมีผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ จึงได้ประสานปกครองท้องที่ให้ดำเนินการ จัดให้มีการประชุมเพื่อพิจารณาเปิดศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน (Emergency Operations Center : EOC ) เพื่อเป็นช่องทางให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้บูรณาการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ให้พัฒนาระบบแจ้งเตือนฝุ่นควันอัตโนมัติในระดับตำบล (ผ่อดีดีตำบล) และจัดทำห้องปลอดฝุ่นในศูนย์เด็กเล็ก เพื่อสื่อสารความเสี่ยงให้กับประชาชนในพื้นที่และป้องกันการป่วย

นายณรงค์กล่าวว่า ทางอำเภอได้ประสานงานแก้ไขปัญหาดังกล่าวกับ นายอำเภอท่าขี้เหล็ก และคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นเมียนมา – ไทย (TBC ฝ่ายเมียนมา จ.ท่าขี้เหล็ก) ผ่านหน่วยประสานงานชายแดนไทย -เมียนมา ประจำพื้นที่ 1 (TBC ไทย) ทั้งนี้เพื่อความชัดเจนของผลการตรวจสอบ กรมอนามัย จะนำเครื่องตรวจวัดขนาดใหญ่มาดำเนินการตรวจวัดกลิ่นในพื้นที่อีกครั้งในวันที่ 17-18 พฤศจิกายน นี้ โดยขอให้กำนันผู้ใหญ่บ้าน ประชาสัมพันธ์แนะนำให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา และให้งดเปิดหน้าต่างในช่วงเวลากลางคืน พร้อมทั้งแนวทางปฏิบัติในการดูแลตนเองหากมีอาการ

รายงานข่าวแจ้งว่า ในช่วงหัวค่ำเมื่อคืนวันที่ 15 พฤศจิกายนที่ผ่านมา มีประชาชนพื้นที่แม่สาย ได้โพสต์ว่ากลิ่นเหม็นนี้ได้พัดไปไกลถึงบ้านจ้อง ต.โป่งผา ที่ไกลจากชายแดนเมียนมาประมาณ 13 กม. และกลิ่นจะแรงมากในช่วงเวลา 3 ทุ่ม ประชาชนที่มีโรคประจำตัวหอบหืด เริ่มมีอากาศแน่นหน้าอก มีการเรียกร้องให้อพยพ และตรวจสอบการกระจายของกลิ่น และประกาศพื้นที่ภัยพิบัติ

สำหรับไฮโดรเจนไซยาไนด์ (Hydrogen cyanide: HCN) เป็นไซยาไนด์ในรูปแบบก๊าซพิษ ไม่มีสี มีกลิ่นฉุน สามารถพบได้ในควันบุหรี่ซึ่งสามารถเข้าไปทำลายเยื่อบุผิวหลอดลมส่วนปลายและถุงลม จนทำให้เกิดโรคหลอดลมอักเสบหรือโรคถุงลมโป่งพองได้ ไฮโดรเจนไซยาไนด์มักใช้กันในอุตสาหกรรมทำเหมืองทอง สารกำจัดแมลง การผลิตมันสำปะหลัง

ขณะที่ Shan East News สื่อท้องถิ่นรายงานว่าเตาเผาปูนขาวกลิ่นแรงใกล้หมู่บ้านเวินวา เมืองท่าขี้เหล็ก ได้รับคำสั่งให้ปิดชั่วคราวระหว่างการตรวจสอบ โดยเมื่อเช้าวันที่ 16 พฤศจิกายน เจ้าหน้าที่ทางการพม่าจากส่วนภูมิภาคที่เกี่ยวข้องได้ไปตรวจสอบโรงงานแห่งหนึ่งที่คาดว่าเป็นต้นเหตุของกลิ่นเหม็น และพบว่ามีกลิ่นเหม็นจากเตาเผาปูนขาว จึงสั่งปิดเตาเผาปูนขาวชั่วคราวระหว่างดำเนินการเพื่อตรวจสอบเอกสารที่เกี่ยวข้องและใบอนุญาตจากหน่วยงานต่างๆ

“ชาวบ้านร้องเรียนเพราะได้กลิ่นเหม็น เราพูดคุยและหารือกันเพื่อตรวจสอบเอกสารที่เกี่ยวข้อง เช่น ใบอนุญาตประกอบการโรงงาน สถานการณ์จดทะเบียนกรรมสิทธิ์ที่ดิน ใบอนุญาตอุตสาหกรรมขนาดย่อมที่เกี่ยวข้อง การอนุมัติจากเขตปกครองและเมืองที่โรงงานเปิดดำเนินการ และการตรวจสอบผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม จากการสอบสวนโรงงานได้รับคำสั่งให้ปิดชั่วคราว” นายอู มอง โซ รองผู้อำนวยการฝ่ายคุ้มครองสิ่งแวดล้อมจังหวัดท่าขี้เหล็ก กล่าว โดยโรงงานดังกล่าวเปิดดำเนินการมากว่า 4 เดือนแล้ว

On Key

Related Posts

หวั่นท่องเที่ยวพินาศหลังน้ำกกกลายเป็นสีขุ่นข้นจากเหมืองทองตอนบนในพม่า นายกฯอบต.ท่าตอนเตรียมทำหนังสือจี้รัฐบาลเร่งแก้ไข-ชาวเชียงรายเริ่มไม่กล้าเล่นน้ำ เผยปลาหายไป 70% ทสจ.ส่งทีมตรวจสอบคุณภาพน้ำ

———เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2568 พ.Read More →

ผบ.สส.เร่งหน่วยงานตรวจสอบคุณภาพน้ำกกหลังชุมชนผวาสารพิษเจือปนจากการทำเหมืองทองฝั่งพม่า ภาคประชาชนเผยน้ำกกขุ่นเพิ่มจากปีก่อน 8 เท่าหวั่นกระทบน้ำดิบทำประปา

เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2568 พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดีRead More →