สำนักข่าว Chindwin รายงานเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2565 ว่า กองทัพพม่าที่ประจำอยู่ในเมืองเดโมโส่ รัฐคะเรนนี ได้ยิงปืนใหญ่ไปยังหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ทางตะวันของเมืองเดโมโส่ โดยกระสุนปืนได้ตกใส่โรงเรียนเป็นเหตุให้เด็กหญิงอายุ 5 ขวบเสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บอีก 8 คน ในจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บยังมีเด็กหญิงอายุเพียง 9 เดือนรวมอยู่ด้วย
ขณะที่สื่อท้องถิ่น Karenni’s Voice รายงานว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เมื่อเวลาประมาณ 17.30 น. โดยชาวบ้านในพื้นที่เล่าว่า คนที่ได้รับบาดเจ็บครั้งนี้ เป็นชาวบ้านบ้านกุงส่า ที่เพิ่งอพยพหนีสงครามจากที่อื่นมาอาศัยอยู่ในพื้นที่ หากรวมเหตุการณ์สูญเสียในครั้งนี้ มีคนเสียชีวิตจากปืนใหญ่ของกองทัพพม่ารวมทั้งสิ้น 24 คน ในเดือนพฤศจิกายนเพียงเดือนเดียว ทั้งนี้หมู่บ้านที่ถูกโจมตีในครั้งนี้เป็นที่พักพิงอาศัยของผู้ลี้ภัยสงครามหลายร้อยคน
ในวันเดียวกัน กองทัพพม่าได้ระดมใช้ปืนใหญ่โจมตีหมู่บ้านที่ห่างออกไปจากตัวเมืองฮักคา รัฐชิน เป็นเหตุให้เด็กชายอายุ 14 ปีเสียชีวิต และเป็นเหตุให้พี่ชายของเด็กชายที่เสียชีวิต และชายอีกคนในหมู่บ้านได้รับบาดเจ็บ คาดว่ากองทัพพม่ากำลังสูญเสียอย่างหนัก จึงใช้อาวุธหนักเพื่อตอบโต้ฝ่ายตรงข้าม โดยเมื่อเร็วๆ นี้ กองทัพพม่าได้ใช้เครื่องบินรบและปืนใหญ่โจมตีพื้นที่ซึ่งคาดว่าจะถูกใช้โดยกลุ่มต่อต้านอย่างหนัก ทั้งในรัฐยะไข่และรัฐกะเหรี่ยง
สำนักข่าว Chindwin ระบุว่า เนื่องจากผู้นำโลกล้มเหลวในการดำเนินมาตรการต่อกองทัพพม่า จึงทำให้กองทัพพม่าไม่มีวี่แววว่าจะลดระดับการโจมตีต่อพลเรือนและกลุ่มติดอาวุธฝ่ายต่อต้าน ในทางกลับกันกองทัพพม่ากลับแสดงให้เห็นว่า มีความมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ที่จะยืดเยื้อสงครามเพื่อช่วงชิงอำนาจ
อีกด้านหนึ่ง รัฐบาล NUG เผยว่า ในรอบ 11 เดือนที่ผ่านมา มีประชาชนอย่างน้อย 155 คนที่ต้องเสียชีวิต และบาดเจ็บอีก 190 คนจากเหตุการณ์กองทัพพม่าใช้เครื่องบินรบโจมตี โดยพื้นที่เขตสะกายเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด
