Search

พบชาวโรฮิงญาเสียชีวิต 13 รายทางเหนือเมืองย่างกุ้ง เชื่อขาดอากาศระหว่างลักลอบมาทำงานในไทย

สำนักข่าว Myanmar Now รายงานเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2565 ว่าได้มีการพบร่างเสียชีวิตชายและเด็กชายคาดว่าเป็นชาวโรฮิงญารวมทั้งสิ้น 13 คน ถูกทิ้งไว้ข้างทาง บริเวณใกล้กับหมู่บ้านหง่วยหนั่นทาร์ เมืองเลกู่ ทางตอนเหนือของกรุงย่างกุ้ง ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่คาดว่ามีอายุระหว่าง 16 – 20 ปี

แหล่งข่าวรายงานว่า ไม่พบร่องรอยการบาดเจ็บตามร่างกายของผู้เสียชีวิต จนถึงขณะนี้ยังไม่ทราบว่าทั้งหมดเสียชีวิตจากสาเหตุใด โดยร่างของชาวโรฮิงญาทั้งหมดถูกส่งไปผ่าชันสูตรที่โรงพยาบาลในย่างกุ้งแล้ว

แหล่งข่าวจากเจ้าหน้าที่ตำรวจอ้างว่า เขาได้รับแจ้งว่ามีผู้ลักลอบเดินทางมากับรถยนต์และได้เสียชีวิตเนื่องจากขาดอากาศหายใจ และยังไม่ทราบแน่ชัดว่า คนเหล่านี้เดินทางมาจากที่ไหน ขณะที่บางแหล่งข่าวระบุสอดคล้องกันว่า ทั้งหมดขาดอากาศหายใจในระหว่างที่ถูกมัดรวมกันอยู่ในรถที่มุ่งหน้าไปยังประเทศไทย โดยทั้งหมดเดินทางมาจากรัฐอาระกัน

ด้านสำนักข่าว Chindwin อ้างจากแหล่งข่าวว่า เด็กหนุ่มชาวโรฮิงญาเหล่านี้ถูกฆ่าโดยเจ้าหน้าที่รักษาความมั่นคงของกองทัพพม่า

ก่อนหน้านี้ในพื้นที่เดียวกัน ทางการสามารถจับกุมชาวโรฮิงญาได้จำนวน 68 รายในระหว่างที่ทั้งหมดกำลังเดินทางมากับรถยนต์ ทั้งนี้ ชาวโรฮิงญามากกว่า 1 ล้านคนได้อพยพหนีออกจากพม่า หลังทางกองทัพพม่าได้กวาดล้างชาติพันธุ์ โดยชาวโรฮิงญาเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่มักถูกจำกัดสิทธิเสรีภาพและสิทธิด้านพื้นฐานอื่นๆ และเหตุนี้เอง พวกเขามักตกเป็นเหยื่อให้กับขบวนการค้ามนุษย์ได้ง่าย โดยนายหน้าค้ามนุษย์เหล่านี้มักให้สัญญาที่จะนำพวกเขาไปอยู่ในประเทศที่มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีกว่า เช่น ประเทศมาเลเซียและประเทศอื่นๆ

ชาวโรฮิงญาหลายคนถูกจับกุมระหว่างเดินจากรัฐยะไข่ไปยังชายแดนไทย-พม่า หรือบริเวณชายฝั่งทางตอนใต้ของประเทศ จากนั้นพวกเขาจะถูกตั้งข้อหาความผิดเกี่ยวกับการเข้าเมืองซึ่งมีโทษจำคุกอย่างน้อยสองปี

ด้านสำนักข่าว Irrawaddy รายงานว่า ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดเหตุสู้รบหนักระหว่างกองทัพพม่าและกลุ่มต่อต้านคะเรนนี เป็นเหตุให้ทหารพม่าเสียชีวิต 20 นาย และถูกจับเป็นอีก 4 นาย นอกจากนี้ยังมีอาวุธบางส่วนที่ถูกยึดได้ โดยทหารพม่าที่เสียชีวิตเหล่านี้มาจากกองพันที่ 108 ซึ่งก่อเหตุสังหารหมู่ชาวบ้านผู้บริสุทธิ์ซึ่งมีทั้งผู้หญิงและเด็กรวม 35 รายเมื่อปีที่แล้ว

ขณะที่กองกำลัง Karenni Nationalities Defense Force (KNDF) ออกมาเตือนชาวบ้านในพื้นที่ให้หลีกเลี่ยงใช้ถนนและห้ามเดินทางกลับบ้าน เนื่องจากคาดว่า จะเกิดเหตุการณ์สู้รบในพื้นที่มากขึ้น

On Key

Related Posts