สำนักข่าว SHAN ในภาษาไทใหญ่รายงานเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2565 ว่า กองทัพพม่าได้เปิดฉากโจมตีอย่างหนักทั้งภาคพื้นดินและทางอากาศต่อกองทัพปะหล่อง TNLA ในเมืองน้ำสั่น ทางเหนือของรัฐฉาน โดยทหารทั้งสองฝ่ายสูญเสียหนัก และส่งผลให้มีผู้ลี้ภัยนับพันคน เหตุโจมตี TNLA เกิดขึ้นติดต่อกันมา 5 วัน ขณะที่ TNLA เป็นอีกกลุ่มที่ยังต่อสู้กับกองทัพพม่าเคียงบ่าเคียงไหล่กับกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์อื่นๆอย่าง กองทัพคะฉิ่น KIA กองกำลังโกก้าง เป็นต้น
สื่อไทใหญ่รายงานว่า กองทัพพม่ากำลังพลราว 400 นาย ได้เข้าปฏิบัติการโจมตีในเมืองน้ำสั่นครั้งนี้ อย่างไรก็ตามกองทัพปะหล่อง TNLA มีกำลังพลนับพันนาย และกำลังเสริมกำลังเข้ามาจากเมืองมีด เมืองสี่ป้อ เมืองหนองเขียวและเมืองจ้อกเมอีกเป็นจำนวนมาก ผู้ติดตามสถานการณ์การเมืองในพม่าระบุว่า ถึงแม้ตัวเลขของฝั่งกองทัพพม่าจะน้อยกว่า แต่ทางฝั่งตั้ตมะด่อว์นั้นมีเครื่องบินรบช่วยรบ ขณะที่ฝ่ายทหารพม่าสูญเสียไม่น้อยกว่า 30 นาย และฝั่ง TNLA สูญเสียทหาร 15 นาย ระหว่างวันที่ 7-11 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยมีการนำเครื่องบินรบมาโจมตีในพื้นที่ ขณะที่ชาวบ้านรายงานว่า มีการยิงปืนใหญ่ไปยังรอบๆเมืองและในตัวเมืองน้ำสั่นเช่นเดียวกัน
นักวิเคราะห์การเมืองในพม่าส่วนใหญ่มองว่า หลังกองทัพพม่าเจรจาหยุดยิงกับกองทัพอาระกัน (Arakan Army) กองทัพพม่าก็หันมารบกับกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ในรัฐฉาน จุดประสงค์อาจต้องการกวาดล้างกลุ่มติดอาวุธที่ร่วมมือกับกองทัพเพื่อประชาชน PDF ที่ละกลุ่ม ขณะที่ชาวบ้านที่ต้องลี้ภัยในครั้งนี้ ส่วนใหญ่เป็นชาวบ้านจากหมู่บ้านกุงส่า และบริเวณรอบๆ ห่างจากเมืองน้ำสั่นไป 16 กิโลเมตร จนถึงขณะนี้มีผู้ลี้ภัยแล้วราว 1,000 คน
อีกด้านหนึ่ง สำนักข่าว Irrawaddy รายงานว่า เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา กองทัพพม่าได้เผาทำลายหมู่บ้านในเขตสะกาย รวมทั้งสิ้น 26 หมู่บ้าน ซึ่งตรงกับวันสิทธิมนุษยชนสากล (10 ธันวาคม 2565) ถึงแม้ไม่มีเหตุสู้รบในพื้นที่ แต่กองทัพพม่ากำลังพลราว 400 นาย ได้เข้าเผาทำลายหมู่บ้านในเมืองเดพะยิน เมืองติ้กหน่าย เมืองกอว์ลิน เมืองบูดาลินและเมืองเยอู ในเขตสะกาย การโจมตีตามหมู่บ้านเหล่านี้ของทหารพม่าก็เพื่อไม่ให้ชาวบ้านให้การสนับสนุนกลุ่มต่อต้าน โดยกองทัพพม่าเขียนข้อความไว้ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งด้วยว่า “คุณจะเดือดร้อน หากตราบใดที่ยังสนับสนุนฝ่ายต่อต้าน”
ในเดือนพฤศจิกายนเพียงเดือนเดียว มีบ้านเรือนอย่างน้อย 27,500 หลัง ในเขตสะกายถูกกองทัพพม่าเผาทำลายวอด อีกด้านหนึ่ง เนื่องในวันมนุษยชนสากล คณะกรรมการผู้แทนสมัชชาแห่งสหภาพ (Committee Representing Pyidaungsu Hluttaw – CRPH) ซึ่งเป็นรัฐบาลพลัดถิ่นที่ได้รับเลือกจากประชาชนในพม่า ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ยูเอ็นและอาเซียนดำเนินมาตรการอย่างเด็ดขาดต่อกองทัพพม่ากรณีที่สังหารประชาชนผู้บริสุทธ์ไปแล้ว 2,565 คน และจับประชาชนกุมขังอีก 16,540 คน โดยระบุในแถลงการณ์ เหตุการณ์จับกุมอย่างผิดกฎหมาย การทรมานร่างกาย และการยึดทรัพย์สินฝ่ายตรงข้ามยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในพม่า
ด้านองค์กรเพิ่อสิทธิมนุษยชนคะเรนนี (KnHRG) เผยว่า เหตุการณ์ที่กองทัพพม่าสังหารประชาชนในหมู่ชาวบ้าน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็กและผู้หญิง รวม 40 ศพ ที่เกิดขึ้นที่เขตโมโส่ เมื่อวันที่ 24 ธันวาคมปีที่แล้ว เป็นเหตุการณ์ละเมิดสิทธิมนุษยชนที่เลวร้ายสุดในรัฐคะเรนนี และจะถูกบันทึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ของชาวคะเรนนี จากข้อมูลของ KnHRG ยังเผยให้เห็นว่า มีประชาชนในรัฐคะเรนนีถูกทหารพม่าสังหารเสียชีวิตรวมทั้งสิ้น 260 คน จากการเก็บข้อมูลยังพบว่า 86 ราย ถูกทรมานก่อนที่จะเสียชีวิต นับตั้งแต่กองทัพพม่ายึดอำนาจ มีชาวคะเรนนีราว 2 แสนคนต้องอพยพหนีออกจากบ้านจากเหตุสงครามสู้รบ และจนถึงขณะนี้ชาวบ้านเหล่านี้ยังไม่สามารถกลับบ้าน
