สำนักข่าว Irrawaddy รายงานเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2565 ว่า กองทัพพม่ากำลังสูญเสียอย่างหนักในรอบ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา หลังเข้าโจมตีและต่อสู้กับกองกำลังกะเหรี่ยง KNU กองพลที่ 5 ซึ่งเคลื่อนไหวอยู่ในเขตเมืองผาปูน รัฐกะเหรี่ยง โดยระหว่างวันที่ 1 – 15 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา ทั้ง 2 ฝ่ายปะทะกันแล้วถึง 78 ครั้ง
สำนักข่าวแห่งนี้ระบุว่า ทหารพม่าและทหารพันธมิตรซึ่งเป็นทหารกองกำลังรักษาชายแดน(BGF) สูญเสียกำลังพล 21 นายจากเหตุสู้รบครั้งนี้ ขณะที่มีทหารพม่าอีก 15 นาย รวมถึงนายทหารยศพันตรีถูกจับ ขณะที่ทหารกะเหรี่ยงสูญเสีย 3 นาย และบาดเจ็บอีก 13 นาย ทั้งนี้ทหารพม่าได้ตอบโต้ด้วยการโจมตีทางอากาศ 9 ครั้งต่อกองกำลังต่อต้าน ซึ่งมีเป้าหมายเป็นพลเรือน โดยใช้ระเบิดโจมตี 64 ลูก นอกจากนี้ทหารพม่ายังยิงกระสุนปืนใหญ่ 75 นัดในพื้นที่ ทำให้มีพลเรือนเสียชีวิต 1 ราย
ทั้งนี้จากข้อมูลถึงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เหตุปะทะกันระหว่างกองทัพพม่าและทหารกะเหรี่ยง KNU ในเขตรัฐมอญ รัฐกะเหรี่ยง เขตตะนาวศรี และเขตพะโคเกิดขึ้น 7,227 ครั้ง คาดว่ามีทหารพม่าเสียชีวิต 6,187 คน และได้รับบาดเจ็บอีก 4,985 คน ขณะที่ฝ่ายต่อต้านเสียชีวิต 30 นาย บาดเจ็บอีก 60 นาย
ส่วนสถานการณ์สู้รบที่เมืองน้ำสั่น ทางเหนือของรัฐฉาน กองกำลังปะหล่อง TNLA อ้างว่า มีทหารพม่าเสียชีวิต 70 นาย และทหารปะหล่องเสียชีวิต 100 นาย เนื่องจากถูกกองทัพพม่าใช้เครื่องบินรบโจมตี แม้ทั้ง 2 ฝ่ายจะสงบศึกชั่วคราว และทหารพม่ายอมถอนกำลังพลออกมา 2 ใน 3 แต่ทั้ง 2 ฝ่ายก็ยังคงตึงกำลังทางทหาร และกองทัพพม่าได้ส่งเครื่องบินลาดตระเวนในเมืองน้ำสั่น อย่างไรก็ตามทหารปะล่อง TNLA มองว่า กองทัพพม่าน่าจะวางแผนโจมตีอีกในอนาคต ขณะที่ผู้ลี้ภัยสงครามจากเหตุสู้รบครั้งนี้ราว 700 คน ยังไม่สามารถกลับบ้านได้ อีกด้านหนึ่ง สำนักข่าว Hsan Loi Voice รายงานว่า เหตุสงครามระหว่างกองกำลังรัฐฉานใต้ RCSS/SSA กับกลุ่มพันธมิตรเหนือ อย่างกองกำลังรัฐฉานเหนือ SSPP/SSA และกองกำลังปะหล่อง TNLA ได้ส่งผลให้โรงเรียนแห่งชาติไทใหญ่กว่า 60 แห่งในหลายๆเมืองของรัฐฉาน เช่นเมืองกึ๋ง เมืองลายค่า โหโปง ปางโหลง ที่จัดตั้งขึ้นโดยกองทัพ RCSS/SSA ต้องปิดตัวลง ครูอาสาสมัครจำนวน 300 คนต้องแยกย้ายไปอยู่ที่อื่น บางส่วนหนีเข้าไทย การก่อตั้งโรงเรียนเหล่านี้ ขณะที่เด็กๆต้องย้ายไปเรียนหนังสือที่วัด
