เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2566 นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ในฐานะรักษาการอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช(อส.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.)ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีคำสั่งโยกย้ายนายพันธุ์พงศ์ คงแก้ว หัวหน้าอุทยานแห่งชาติตะรุเตา จ.สตูล ไปปฏิบัติราชการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5(นครศรีธรรมราช) และแต่งตั้งนายมงคล แดงกัน นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการส่วนฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่อนุรักษ์ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 6 เป็นหัวหน้าอุทยานแห่งชาติตะรุเตา ว่าเหตุผลข้อแรกคือนายพันธุ์พงศ์ไม่พร้อมที่จะทำงานเพราะไม่สบาย และตนเองก็อยากจัดระบบเกาะหลีเป๊ะซึ่งตอนนี้กำลังนัดประชุมกับผู้ประกอบการและชาวบ้านทั้งหมด ดังนั้นเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปทำงานต้องมีความแข็งแรงและทำงานเชิงรุกด้านกฎหมายในการพัฒนาพื้นที่เกาะหลีเป๊ะ โดยต้องมองทั้งในมิติด้านสิ่งแวดล้อม เช่น เรื่องน้ำเสีย การจัดการขยะ รวมถึงเรื่องรายได้
“เมื่อดูจากผลงานของเขาดรอปไปเยอะ และเขาเองก็ไม่พร้อมเรื่องสภาพร่างกาย รวมทั้งยังมีเหตุผลของมันอยู่” รักษาการอธิบดีกรมอุทยานฯกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นเพราะนายพันธุ์พงศ์เป็นลูกเขยเจ้าของที่ดินแปลงที่กำลังมีปัญหาบนเกาะหลีเป๊ะด้วยหรือไม่ นายอรรถพลกล่าวว่า ไม่อยากพูดถึง แต่มีอีกหลายสาเหตุและหลายข้อมูลที่นำมาประกอบกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่าเมื่อปี 2557 กรมอุทยานฯเคยตรวจสอบที่ดินที่มีปัญหาบนเกาะหลีเป๊ะ น.ส.3แปลงที่ 11 ว่าเอกสารไม่ถูกต้องและเสนอให้กรมที่ดินเพิกถอน น.ส.3 ทั้งแปลง ใช่หรือไม่ รักษาการอธิบดีกรมอุทยานฯกล่าวว่า ขั้นตอนของกรมอุทยานฯได้ดำเนินการไปตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว แต่ไปติดค้างอยู่ที่กรมที่ดินซึ่งไม่ใช้ดุลพินิจตามมาตราที่ 61 แต่ก็ไม่เป็นไรเพราะเป็นสิทธิของกรมที่ดิน แต่ตอนนี้มีพยานหลักฐานที่น่าเชื่อได้ว่ามีการออกโดยมิชอบ และกระบวนการตอนนี้ไม่น่ามีปัญหาเพราะอยู่ภายใต้คณะกรรมการที่มี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.)เป็นประธาน หน่วยงานต่างๆก็ต้องให้ความร่วมมือ
เมื่อถามอีกว่าอุทยานฯก็จะใช้ข้อมูลนั้นมายืนยันอีกครั้งใช่หรือไม่ นายอรรถพล กล่าวว่า ใช่ แต่ทำให้ข้อมูลหลักฐานแน่นขึ้น และในนามภาพรวมของคณะกรรมการฯจึงไม่มีปัญหาอะไร ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าที่ดินแปลงนี้เดิมเป็นของรัฐซึ่งอยู่ภายใต้เงื่อนไขว่าไม่ควรมี ส.ค.1 และ ส.ค.1 นี้ก็พิสูจน์ไม่ได้ทั้งหมดว่าได้มีการทำประโยชน์ตามหลักเกณฑ์ประมวลกฏหมายที่ดินโดยได้มีการแปลภาพถ่ายทางอากาศมาตั้งแต่ต้น
“เขามีการพิสูจน์กันแล้ว มีคณะกรรมการแปลภาพอยู่แล้ว ต้องดูหลายอย่าง โดยดีเอสไอได้ไปดูสารบบว่ามีการรับรองที่ไม่ถูกต้องตามข้อเท็จจริงหรือไม่ ดังนั้นจึงไม่ใช่ข้อมูลของกรมอุทยานฯอย่างเดียว แต่เป็นข้อมูลหลายส่วนมาประกอบกัน เป็นข้อมูลที่น่าเชื่อได้ว่า เมื่อความปรากฏตามมาตรา 61 ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่ตั้งตามมาตรา 61”นายอรรถพล กล่าว
เมื่อถามถึงเรื่องการฟื้นฟูเกาะหลีเป๊ะ นายอรรถพลกล่าวว่า ต้องทำทุกมิติรวมกัน เราไม่ได้หมายความว่าจะเอารีสอร์ทออกทั้งหมดเพราะเป็นไปไม่ได้และไม่เกิดประโยชน์ แต่ต้องจัดระเบียบไม่ให้เกิดความแออัด และมีปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ไม่มีปัญหาเรื่องน้ำเสียและขยะ หรือเรื่องของการเดินเรือที่เกิดผลกระทบกับปะการังก็ต้องมีการจัดระเบียบกันใหม่ ไม่เช่นนั้นก็จะนับถอยหลังและเกิดความเสียหายทั้งหมด ประชาชนก็เดือดร้อน ดังนั้นจึงต้องคุยกันทั้งผู้ประกอบการและชาวเลให้อยู่ในจุดสมดุล เอาจุดที่พอดีและอยู่ได้อย่างยั่งยืน