
เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 ประชาชนพม่าในประเทศไทยได้เดินทางมารวมตัวกันที่บริเวณหน้าสถานทูตพม่า ประจำประเทศไทย ถนนสาทร ตั้งแต่เวลาประมาณ 10.30 น. เพื่อทำกิจกรรมต่อต้านการทำรัฐประหารของกองทัพพม่าในโอกาสครบรอบ 2 ปีที่กองทัพพม่าทำรัฐประหารรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง

ทั้งนี้บรรยากาศการชุมนุมเป็นไปอย่างคึกคัก โดยมีประชาชนพม่าจำนวนมากเข้าร่วมทำให้ตำรวจ สน.ยานนาวา ต้องปิดถนน 2 ช่องทาง โดยมีการตะโกนเป็นภาษาพม่า ประณาม พลเอกอาวุโส มินอ่องหลาย ผู้บัญชาการสูงสุดแห่งกองทัพพม่า หรือ ทัตมาดอ
ขณะที่มีประชาชนนำภาพ พลเอกมินอ่องหลายมากระทืบด้วยเท้า พร้อมชูภาพสนับสนุนนางอองซานซูจี ผู้นำพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย หรือ NLD วิ่นมยิ้ด อดีตประธานาธิบดีของเมียนมา และนายพลอองซาน บิดาของอองซานซูจี นอกจากนี้ ชาวพม่าบางคนนำธงพม่าในยุคเรียกร้องเอกราชจากอาณานิคมมาโบกสะบัดด้วย

ระหว่างการชุมนุมมีการแสดงศิลปะการแสดง หรือ performance art สะท้อนความโหดร้ายของกองทัพพม่า และการต่อสู้ของกองกำลัง PDF
สำหรับข้อเรียกร้องของกลุ่ม Bright Future ซึ่งเป็นแกนนำในการจัดกิจกรรมครั้งนี้ ระบุในแถลงการณ์ว่าต้องการให้รัฐบาลไทยอย่าร่วมมือกับกองทัพพม่า และขอให้ประชาชนไทยผู้รักประชาธิปไตย สนับสนุนรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ (NUG) และกองกำลังพิทักษ์ประชาชน (PDF)
การชุมนุมดำเนินไปจนกระทั่งเวลา 14.28 น. ประชาชนพม่าทยอยแยกย้ายออกจากพื้นที่หน้าสถานทูตพม่าฯ
ทั้งนี้แถลงการณ์เนื่องในวันครบรอบ 2 ปี รัฐประหารเมียนมา ระบุว่าประชาชนไม่ว่าในประเทศใดในโลกนี้รักประเทศและเพื่อนร่วมประเทศของตนมากเท่าชีวิต พวกเราล้วนมีความกล้ามากพอที่จะเสียสละเพื่อส่วนรวม และต้องการให้ประเทศของเราพัฒนาก้าวหน้าเทียบเท่ากับเหล่าประเทศต่างๆ ทั้งด้านสวัสดิภาพและอนาคตของคนในประเทศ นี่คือความจริงหนึ่งที่ไม่สามารถปฏิเสธได้ ดังนั้น ใครก็ตามซึ่งสถาปนารัฐบาลเลวทราม และระบบอันเลวทราม จึงสมควรจะต้องถูกทำการปฏิวัติโดยประชาชน

“สองปีที่ผ่านมา นับเป็นสองปีที่ด่างพร้อยในประวัติศาสตร์ของผู้คนเมียนมาและของโลก จำนวนชีวิตของผู้บริสุทธิ์สูญเสียไปภายใต้ยุคมืดของเผด็จการทหารเมียนมานั้นนับไม่ถ้วน ต่อหน้าความอยุติธรรมที่ชัดเจนเช่นนี้ คุณจะยังนิ่งเฉยอยู่หรือ เพราะว่าผู้รู้เห็นกับอาชญากรรมนี้จะถูกประณามดังเช่นอาชญากรต่อมวลมนุษย์ทั้งหมด หากรัฐบาลไทยยังคงมีความเป็นคนหลงเหลืออยู่ ก็จงปลีกตัวห่างจากทรราชเหล่านี้ อย่าร่วมมือกับพวกมันเลยประเทศไทย”แถลงการณ์ ระบุ
แถลงการณ์ระบุด้วยว่า ถ้าประชาคมโลกใช้อำนาจกดดันเต็มที่ คงไม่มีประเทศไหนในโลกที่ต้องประสบกับเผด็จการ เรารู้เรื่องนี้ดี เพราะการนำของวีรชนอย่างรัฐบาลเงาเมียนมา (NUG) ฝ่ายกรรมการตัวแทนสมัชชาแห่งสหภาพ (CRPH) ได้แฉบ่อนเซาะภาพลักษณ์ของพวกเผด็จการจนไม่เหลือความชอบธรรมแล้ว ไม่มีใครอยากจับมือที่เปื้อนเลือดของมิน อ่อง หลาย และพรรคพวกอีกต่อไป และเราชวนเพื่อนชาวไทยผู้รักในประชาธิปไตยมาสนับสนุนรัฐบาลเงา และสนับสนุนกองกำลังพิทักษ์ประชาชน (PDF) เมื่อไหร่ก็ตามเท่าที่เป็นไปได้ ด้วยทุกวิธีที่สามารถทำได้
“ปีนี้จะเป็นปีที่ประชาชนจะโค่นล้มอำนาจทรราชสำเร็จ หากแต่ว่าด้วยความร่วมมือของผู้รักในเสรีภาพ และประชาธิปไตยทั่วโลกแล้ว เราจะประสบความสำเร็จเร็วยิ่งขึ้นไปอีก และยิ่งเราทำสำเร็จเร็วขึ้นอีกเท่าไหร่ ชีวิตผู้บริสุทธิ์จะรอดพ้นเร็วยิ่งขึ้น และมิน อ่อง หลาย จะได้รับการลงทัณฑ์ที่สาสมที่รวดเร็วยิ่งขึ้น ประชาธิปไตยเมียนมาไม่ใช่เพียงความเป็นไปได้ แต่เป็นการนับถอยหลังเวลาที่ค่อยๆ เดินสู้เป้าหมายอย่างมั่นคงแน่นอน”แถลงการณ์ ระบุ
