ขอบคุณภาพเฟซบุ๊ก เอก เกียรติศักดิ์ แม่สอด และ CJ
เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2566 ศูนย์ข้อมูลกะเหรี่ยง KIC รายงานว่า มีการสู้รบในรัฐกะเหรี่ยงใกล้เขตเศรษฐกิจพิเศษชเวก๊กโก่ ส่งผลให้ชาวบ้านหลายพันคนต้องหนีเอาชีวิตรอดมายังชายแดนไทยริมน้ำเมย
ชาวบ้านรายหนึ่งซึ่งอยู่ในเหตุการณ์เปิดเผยว่า เหตุเกิดที่หมู่บ้านทีคอทอ อยู่ทางเหนือของเมืองเมียวดี ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก โดยฐานที่มั่นของกองกำลังพิทักษ์ชายแดน หรือ BGF ซึ่งอยู่ภายใต้บังคับบัญชาของกองทัพพม่า ถูกโจมตีโดยกองกำลังร่วมปฏิวัติ(กองกำลังผสมทหารกะเหรี่ยงและกลุ่มผู้ต่อต้านรัฐบาลพม่า)ซึ่งมี KNU เป็นหลัก เมื่อเช้าวันนี้ การสู้รบดังกล่าวทำให้ประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงต้องหนีไปที่ริมฝั่งแม่น้ำเมย ในปัจจุบันมีคำสั่งห้ามสัญจรทั้งภายในและภายนอกพื้นที่เมืองใหม่ชเวก๊กโก่
ชาวบ้านรายนี้กล่าวว่า การโจมตีดังกล่าวเกิดขึ้นใกล้กับหมู่บ้านตั้งแต่ช่วงรุ่งเช้าโดยได้ยินเสียงอาวุธหนัก เจ้าหน้าที่บีจีเอฟจากหมู่บ้านก็ระดมยิงตอบโต้กองกำลังปฏิวัติที่ยิงเข้ามาในค่ายบีจีเอฟในหมู่บ้านทีคอทอ ชาวบ้านต่างพากันวิ่งหนีไปที่ริมแม่น้ำเมย และสถานการณ์ดูไม่ดี ผู้คนจากพื้นที่โครงการจีน (เขตเศรษฐกิจพิเศษชเวก๊กโก่) ก็วิ่งหนีมาเช่นกัน มีลูกระเบิดตกลงสนาม
ขณะที่คนขับรถรายหนึ่งให้ข้อมูลกับ KIC ว่าการต่อสู้เกิดขึ้นใกล้กับหมู่บ้านทีคอทอ ใกล้เมืองใหม่ชเวก๊กโก่ ใกล้ถนนสายเอเชีย เมียวดี-กอกาเร็ก โดยผู้สัญจรต่างต้องพากันหันรถกลับเพื่อความปลอดภัย
ทั้งนี้การสู้รบที่เกิดขึ้นที่ต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 5 เมษายน 2566 ส่งผลให้มีชาวบ้านจากรัฐกะเหรี่ยงหนีเข้ามายังพื้นที่ฝั่งไทยจำนวนมาก โดยบางรายงานระบุว่าสูงถึง 3,000 คน และยังคงมีเสียงอาวุธหนักดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง และกองทัพพม่าได้ส่งเครื่องบินสนับสนุนการรบ และตอบโต้ด้วยการโจมตีพื้นที่ใกล้ชุมชนหยะลีอ่าท่า ตรงข้ามอ.แม่ระมาด จ.ตาก
แหล่งข่าวด้านความมั่นคงในพื้นที่ อ.แม่สอด ระบุว่า สาเหตุของการสู้รบกันครั้งนี้เนื่องจากพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษชเวก๊กโก่ มีข่าวการค้ามนุษย์และการหลอกลวงผู้คนให้มาทำงานต้มตุ๋นออนไลน์จำนวนมาก รวมถึงการใช้ความรุนแรง เป็นแหล่งอาชญากรรม มีสภาพการทำงานเหมือนแรงงานทาส แต่กองกำลัง BGF กลับเพิกเฉยกับเหตุการณ์เหล่านี้ ทางกองกำลังฝ่ายปฏิวัติจึงมีความจำเป็นที่ต้องปฏิบัติการนี้ เพื่อหวังว่า จะสามารถช่วยเหลือกลุ่มคนที่ถูกหลอกมาขายในพื้นที่แห่งนี้ให้รอดออกมาได้บางส่วน
เวลา 14.30 น. ตามเวลาย่างกุ้ง สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (Karen National Union-KNU) ได้จัดแถลงข่าวผ่าน zoom ให้หัวข้อ สงครามของกองทัพพม่าในรัฐกะเหรี่ยง ความสูญเสียของประชาชนหลังรัฐประหารในพม่า (Myanmar Military’s War Crimes in Kawthoolei: Loss of Lives and Livelihoods after the Coup of 2021) โดยฝ่ายสิทธิมนุษยชนของเคเอ็นยู ได้นำเสนอข้อมูลสถานการณ์ในรัฐกะเหรี่ยง ที่ถูกโจมตีโดยกองทัพพม่าอย่างต่อเนื่องส่งผลให้ประชาชนจำนวนมากต้องกลายเป็นผู้พลัดถิ่นมาแล้วกว่า 2 ปี
KNU ได้ขอบคุณรัฐบาลไทยที่ช่วยเหลือทางมนุษยธรรมมาโดยตลอด ทั้งผู้หนีภัยและแรงงานจากพม่า และอยากวิงวอนขอให้กรุณาเปิดให้สามารถส่งความช่วยเหลือไปยังประชาชนผู้เดือดร้อนได้ ขณะนี้ประชาชนในพม่าต่างสูญเสียอาชีพ สูญเสียโอกาสทางเศรษฐกิจ เด็กๆ ไม่สามารถเข้าถึงการศึกษา นี่คือความท้าทายในเวลานี้ การให้ความช่วยเหลือมนุษยธรรมข้ามพรมแดน เป็นช่องทางที่สำคัญที่สุดที่จะเข้าถึงประชาชนที่จำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือ เนื่องจากช่องทางอื่นไม่สามารถเกิดขึ้นได้อีกแล้วในพม่า
ผู้สื่อข่าวนักข่าวถามถึงเรื่องอาวุธเคมีที่ส่งลงมาจากเครื่องบินรบว่ามีข้อเท็จจริงหรือไม่ ผู้แทนเคเอ็นยูตอบว่า ยากมากที่จะแสดงหลักฐานว่ากองทัพพม่าใช้อาวุธเคมี เราพยายามใช้กระบวนการประสานงานกับนานาชาติในเรื่องนี้ กองทัพพม่ามองประชาชนเป็นศัตรู มีเป้าหมายโจมตีประชาชนอย่างชัดเจน และต่อเนื่อง