
สำนักข่าวไทใหญ่ SHAN รายงานเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2566 โดยอ้างอิงจากสำนักข่าว Voice of America ว่า กองทัพว้าได้ประกาศอย่างเป็นทางการที่จะยุติขุดแร่ดีบุกในเขตพื้นที่ของตัวเองตั้งแต่ในเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้เป็นต้นไปและกำลังส่งผลกระทบต่อตลาดโลก ล่าสุด ในลอนดอนราคาแร่โลหะดีบุกพุ่งขึ้นสูงเป็นตันละ 27,000 ดอลลาร์แล้ว
สื่อไทใหญ่รายงานว่า พม่าเป็นแหล่งแร่ดีบุกที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และส่งออกแร่ดีบุกให้ประเทศจีนมากที่สุด ขณะที่ตามรายงานของทางการจีนในปี 2565 พบว่า พม่าส่งออกแร่ดีบุกให้กับจีนคิดเป็นร้อยละ 77% อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา การส่งออกแร่ดีบุกให้กับจีนลดลงเป็นจำนวนมากหรือลดลงราวครึ่งหนึ่ง ซึ่งกระทบต่อธุรกิจแร่ดีบุกในจีนด้วยเช่นเดียวกัน ขณะที่กองทัพว้าให้เหตุผลการยุติขุดแร่ว่า เนื่องจากต้องการรักษาสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่ของตน ส่วนบริษัทที่ได้รับอนุญาตให้ขุดแร่ดีบุกในเขตพื้นที่ของว้านั้น จะอนุโลมให้ขุดต่อไปอีก 3 เดือน ก่อนที่จะให้ยุติกิจการ
เมื่อหลายปีก่อนสำนักข่าวรอยเตอร์เคยแพร่ข้อมูลว่า ห่วงโซ่การผลิตสินค้าของหลายแบรนด์ดังอย่าง Apple, Starbucks และ Tiffany & Co อาจเกี่ยวข้องกับเหมืองแร่ดีบุกของกองทัพว้า โดยพบว่า กว่า 500 บริษัทอยู่ในรายชื่อของบริษัทจัดหาแร่ของจีน 7 แห่ง บริษัททั้ง 7 แห่งนี้สกัดแร่ดีบุกจากเหมืองแร่ Man Maw อยู่ในเขตควบคุมของกองทัพว้าในเขตรัฐฉาน
อีกด้านหนึ่ง สำนักข่าวไทใหญ่ Tai TV Online รายงานว่า กองทัพว้าได้จัดพิธีฉลองครบรอบก่อตั้งกองทัพ 34 ปี อย่างยิ่งใหญ่ที่เมืองป้อก เขตพื้นที่ 468 ทางเหนือของรัฐฉาน และที่เมืองจ้อต เขตพื้นที่ 171 ทางใต้ของรัฐฉาน ในพิธีดังกล่าวมีการแสดงแสนยานุภาพทางทหารของกองทัพว้า และมีการร้องเพลงยกย่องผู้นำของว้า รวมไปถึงการแข่งขันกีฬาเป็นเวลา 10 วัน
ด้านกองทัพปะหล่อง TNLA ได้ออกแถลงการณ์เนื่องในวันครบรอบก่อตั้ง 34 ปี ของกองทัพว้าระบุว่า TNLA นั้นจะยอมให้กองทัพว้าเป็นผู้นำในทางด้านการเมืองและการทหาร เพื่อให้ทางกลุ่มบรรลุเป้าหมายในการปกครองตนเองและเป้าหมายอื่นๆ โดยกลุ่มปะหล่อง TNLA กล่าวเห็นด้วยกับกองทัพว้าที่ระบุว่า อย่าใช้กำลังแก้ปัญหาการเมือง แต่ให้ใช้การเมืองแก้ปัญหาการเมือง นอกจากนี้ยังกล่าวชื่นชมแนวทางการปกครองและความปรองดองของกองทัพว้าว่า ทำให้เขตปกครองพิเศษของกองทัพว้าเจริญในทุกด้าน โดย TNLA พร้อมให้ความร่วมมือและสนับสนุนว้าตลอดไป
ก่อนหน้านี้ สื่อ Irrawaddy รายงานว่า หลังรัฐประหาร กองทัพว้าพร้อมกำลังพลราว 3,000 นาย และรถอีกนับร้อยคันจากเมืองป๋างซาง ได้ข้ามแม่น้ำสาละวินมาทางภาคใต้ของรัฐฉานและประจำอยู่ทางตะวันตกของแม่น้ำสาละวิน นอกจากนี้ นับตั้งแต่เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2566 ที่ผ่านมา กองทัพว้ากำลังพลราว 300 นาย ได้เข้ามาประจำในเมืองต้างยาน เมืองหยอและเมืองล่าเสี้ยว ตั้งอยู่ทางเหนือของรัฐฉาน โดยประจำอยู่ร่วมกับฐานทัพกองทัพรัฐฉานเหนือ SSPP/SSA