
เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2566 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวตอนหนึ่งในการตอบคำถามสื่อมวลชนภายหลังการร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจร่วมกันกับพรรคการเมืองที่สนับสนุนในการจัดตั้งรัฐบาลถึงประเด็นเกี่ยวกับพม่าว่า ตนขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ่งต่อชาวพม่าที่สูญเสียจากพายุไซโคลนโมกา และเรียกร้องให้รัฐบาลรักษาการณ์สนับสนุนความช่วยเหลือโดยทันทีให้แก่ผู้ที่ประสบภัย

“เป็นโอกาสของประเทศไทยที่จะทำงานกับผู้นำประเทศต่างๆ อาเซียนให้ความช่วยเหลือพม่า ที่ต้องเผชิญความยากลำบากใน 2-3 ปีที่ผ่านมา ในฐานะว่าที่รัฐบาลจะนำประเด็นปัญหาพม่ามาแก้ปัญหาด้วยนโยบาย 3 R คือ revive ฟื้นฟูเริ่มใหม่ ไม่ใช่การทูตที่รอเงียบๆ อีกต่อไป rebalance คนกลางก็สามารถนำใช้อำนาจทางการทูตและกฎหมายได้ recalibate คิดใหม่ในเรื่องการต่างประเทศ ที่จะแสวงหาประโยชน์ร่วมกันระหว่างประเทศ” นายพิธากล่าว
นายพิธา กล่าวถึงกรณีที่รายงานของสหประชาชาติระบุว่า ประเทศไทยส่งอาวุธขายให้รัฐบาลพม่ามากเป็นลำดับ 5 ว่าได้ให้ทีมงานที่เป็นฝ่ายต่างประเทศตรวจสอบลงลึกในรายงานชิ้นนี้ ว่าการเอาอาวุธเข้าไปต้องมีการตรวจสอบ และมีการสร้างแรงกดดันและแรงจูงใจเพื่อให้ทุกฝ่ายกลับมาสู่โต๊ะเจรจาและให้ประชาธิปไตยกลับสู่พม่าในที่สุด เพื่อเป็นเป็นเอกภาพของอาเซียน
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม นายพิธาได้ทวีตภาษาอังกฤษและพม่า มีเนื้อหาว่า ความคิดและคำอธิษฐานของตนอยู่กับชาวเมียนมาในวันนี้ โดยเฉพาะผู้ที่เสียชีวิต ครอบครัว และที่อยู่อาศัยจากพายุไซโคลน ตนเรียกร้องให้รัฐบาลรักษาการณ์และประชาคมระหว่างประเทศเร่งให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากพายุไซโคลน
“สิ่งนี้สอดคล้องกับวาระนโยบายต่างประเทศของผมในในฐานะนายกรัฐมนตรีจากการเลือกตั้ง นโยบายของผมเกี่ยวกับเมียนมาคือ ร่วมมือกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม โดยเน้นการความมั่นคงของมนุษย์ รวมถึงด้านมนุษยธรรมและเศรษฐกิจ เพื่อให้บบรรลุซึ่งสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันสำหรับประเทศไทย เมียนมา อาเซียนและประเทศอื่นๆ” ข้อความที่นายพิธาทวีต

การทวีตเป็นข้อความเกี่ยวกับสถานการณ์ในพม่าเป็นภาษาไทยและภาษาพม่าในครั้งนี้มีคนเข้าถึงกว่า 5 ล้านคน และมีการแชร์กว่า 37,700 ครั้ง โดยส่วนมากเป็นชาวพม่าและกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆซึ่งต่างแสดงความชื่นชมและปลาบปลื้มใจ โดยต่างพากันแสดงความเห็นทั้งในภาษาพม่า ภาษาอังกฤษและภาษาไทย อาทิ ขอบคุณมากสำหรับความเมตตาต่อมนุษยชาติและประเทศของเราซึ่งกำลังมีปัญหา, ขอบคุณจากใจชาวพม่า เพื่อนบ้าน, ขอบคุณประชาธิปไตยและการเมืองของไทย



