
สำนักข่าว Than Lwin Times รายงานเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2566 ว่า ขณะนี้กองทัพพม่ากำลังใช้มาตรการเข้มงวดต่อทหารใต้บังคับบัญชา เพื่อไม่ให้แปรพักตร์ไปร่วมหรือติดต่อกับฝ่ายต่อต้าน นับตั้งแต่รัฐประหารจนถึงขณะนี้ มีทหารจากกองทัพพม่าหนีทัพแล้วราว 20,000 นาย
รายงานข่าวแจ้งว่า กองทัพพม่าได้ยึดบัตรประจำตัวและทะเบียนบ้านทหาร รวมทั้งทหารบางนายถูกสั่งให้มีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลในเอกสารประจำตัว ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคงและเกี่ยวกับการเลือกตั้ง โดยเอกสารที่ถูกแก้ไขเหล่านี้ถูกรวบรวมและเก็บรักษาโดยทหาร
ผู้สังเกตการณ์ด้านกิจการทหารกล่าวว่า ปัจจุบันมีการห้ามเจ้าหน้าที่ทหารลางานหรือเดินทางออกนอกประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางไปไหนคนเดียว โดยจะต้องเดินทางพร้อมกับเจ้าหน้าที่อีก 2-3 คน และจะต้องได้รับการอนุญาตจากผู้บังคับบัญชาก่อนที่จะเดินทางได้ แม้แต่การไปยังร้านค้าที่อยู่ใกล้เคียงกับกองทัพก็ไม่สามารถทำได้
ผู้สังเกตการณ์ด้านกิจการทหารยังระบุอีกว่า สภาทหารของพม่าได้ยกระดับมาตรการเข้มงวดต่อทหารภายใต้บัญชาเพื่อไม่ให้เข้ากับฝ่ายต่อต้าน ทั้งการงดจ่ายเงินเดือนของทหารบางนาย และใช้วิธีการต่างๆหรือข้อจำกัดบางอย่างต่อครอบครัวของทหาร อย่างไรก็ตาม แม้ภายในกองทัพพม่าจะมีมาตรการเข้มงวดเหล่านี้ แต่ก็ไม่อาจหยุดยั้งทหารเข้าร่วมกับกลุ่มต่อต้านอย่างขบวนการอารยะขัดขืน (Civil Disobedience Movement – CDM) ที่ยังคงมีทหารพม่าเข้าร่วมเพิ่มมากขึ้น เช่นในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาเพียงเดือนเดียวมีทหารเข้าร่วมกับฝ่ายต่อต้าน 12 คน
ส.อ.เท็ตหน่ายอ่อง กล่าวว่า ตัวเลขของทหารในกองทัพอากาศนั้น ยังเข้าร่วมกับกับ CDM น้อยมากเมื่อเทียบกับกลุ่มอื่นๆ โดยส่วนตัวเขาเชื่อว่า หากข้อมูลไปถึงยังกองทัพอากาศพม่า เชื่อว่าจะช่วยเปลี่ยนมุมมองของทหารในกองทัพอากาศมาเข้าร่วมกับฝ่าย CDM ได้
สื่อพม่ายังรายงานว่า ขณะนี้กองทัพพม่ากำลังเผชิญกับการสูญเสียกำลังพลในทุกๆวันโดยการถูกลอบโจมตีจากกลุ่มต่อต้านต่างๆที่มีอยู่มากมายทั่วประเทศ ขณะที่ทหารบางส่วนได้หนีทัพโดยไม่มีใครรู้ว่าไปอยู่ที่ไหน จำนวนทหารที่ลดลงนี้เองได้ทำให้กองทัพได้หันใช้มาตรการเข้มงวดต่อทหารใต้บังคับบัญชา
ในขณะเดียวกัน รัฐบาลพลัดถิ่น (NUG) รับรู้ว่าทหารพม่านั้นกำลังเผชิญกับภาวะเสียขวัญกำลังใจ จึงได้ออกมาประกาศว่า หากทหารรายไหนที่เข้าร่วมกับกองทัพจะได้รับเงินรางวัล และจนถึงขณะนี้มีจำนวนทหารของกองทัพตั้ตมะดอว์เข้าร่วมกับฝ่ายต่อต้านแล้วราว 20,000 นาย นับตั้งแต่รัฐประหาร อย่างไรก็ตาม มีทหารพม่าบางส่วนที่แปรพักตร์แล้วได้ตัดสินใจที่จะกลับเข้าไปในกองทัพอีกครั้ง ซึ่งกำลังถูกตั้งคำถามถึงมาตรการตรวจสอบรับคนเข้ามาของ NUG ด้วยเช่นเดียวกัน
————