
วันที่ 12 มิถุนายน 2566 ที่บริเวณหัวงานโครงการเขื่อนวังหีบ ต.นาหลวงเสน อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่ของกรมชลประทาน นำโดย นายชูศักดิ์ สุทธิ ผู้อำนวยการสำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดใหญ่ที่ 15 นางวิลาวัณฑ์ จริตงาม ปลัดอำเภอทุ่งสง นายสุธี มณีฉาย กำนันตำบลนาหลวงเสน สจ.ปรีชา พรมเพศ และเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) รวมกว่า 50 คน ได้เดินทางมาเพื่อเข้าไปปักหมุดแนวเขตน้ำท่วมและนับอาสินในพื้นที่ของชาวบ้านบริเวณหัวงาน เพื่อเดินหน้าสร้างเขื่อนวังหีบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ได้แยกกำลังออกเป็น 2 ชุด โดยชุดแรกได้พบปะชาวบ้านเพื่อพูดคุยแต่ได้มีปากเสียงกันเพราะชาวบ้านไม่ยินยอมให้เข้าพื้นที่ และอีกชุดได้เข้าไปเพื่อปักหมุดในบริเวณพื้นที่ดังกล่าว ต่อมามีชาวบ้านเห็นจึงรีบเข้าไปหาและนำกลุ่มคนดังกล่าวพร้อมทั้งอุปกรณ์ มารวมกับชุดแรก ทั้งนี้มีชาวบ้านวังหีบ นักข่าวท้องถิ่นและประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับโครงการสร้างเขื่อนกว่า 70 คน ได้ขัดขวางเจ้าหน้าที่ไว้ ขณะที่มีเจ้าหน้าที่บางกลุ่มพยายามหนีออกจากมวลชนแต่ไม่สำเร็จ เมื่อสอบถามข้อเท็จจริงการเข้ามาในพื้นที่วันนี้กลับไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจน บอกเพียงว่าต้องการเข้ามาปักหมุดและตรวจนับผลอาสินเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การที่นักการเมืองในพื้นที่นำเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้ามาสร้างความไม่พอใจให้กับชาวบ้านวังหีบเป็นอย่างมากจนเกิดการเผชิญหน้ากัน หลังจากนั้นชาวบ้านวังหีบได้ขับไล่ให้หน่วยงานออกจากพื้นที่ ก่อนที่ความขัดแย้งจะบานปลายไปสู่ความรุนแรงในที่สุด

ด้าน นายยงยุธ มณีฉาย ตัวแทนชาวบ้านวังหีบ กล่าวว่า ที่ผ่านมาตนได้ยืนยันชัดเจนว่าไม่เห็นด้วยกับโครงการวังหีบ และเมื่อคครั้งที่องคมนตรี มาประชุมที่นครศรีธรรมราช ตนและชาวบ้านวังหีบได้เข้าไปยืนหนังสือให้ยกเลิกโครงการวังหีบผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด ในการยื่นหนังสือครั้งนั้น องคมนตรีได้ฝากข้อความผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดว่า ได้รับทราบถึงปัญหาข้อทุกข์ร้อนของชาวบ้านวังหีบแล้ว และหากยังไม่ได้ข้อยุติก็จะไม่มีการขับเคลื่อนโครงการในพื้นที่ การเข้ามาของหน่วยงานในวันนี้ ตนก็ไม่เข้าใจว่า เหตุใดหน่วยงานจึงไม่ยอมฟัง
นายวุฒิชัย แก้วลำหัด ชาวบ้านที่คัดค้านเขื่อนวังหีบ กล่าวว่า โครงการวังหีบได้มี มติ ครม. เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2561 โดยระบุไว้ว่า ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ชี้แจงและทําความเข้าใจกับราษฎรในพื้นที่ และผู้ที่ได้รับผลกระทบให้ได้ข้อยุติก่อนดําเนินการตามโครงการต่อไป แต่ที่ผ่านมายังไม่มีกระบวนการสร้างความเข้าใจดังกล่าว อีกทั้ง การพยายามเข้ามาในพื้นที่โดยมีการนำเจ้าหน้าที่ ตชด ตำรวจเข้ามาด้วย คล้ายเป็นการข่มขู่ชาวบ้านในวันนี้ จึงทำให้เห็นได้ว่า หน่วยงานภาครัฐต้องการบีบบังคับชาวบ้านให้หวาดกลัว ไม่มีความจริงใจ ในวันนี้มีนักการเมืองท้องถิ่นบางคนพยายามนำพาให้สถานการณ์ในพื้นที่ไปสู่ความขัดแย้ง
“พวกเราขอให้ท่านหยุดการกระทำนั้นเสียเถิด อย่างไรชาวบ้านวังหีบก็ไม่ยินยอมให้มีการเข้าสำรวจพื้นที่โดยเด็ดขาด นอกจากนั้น เราจะมีการจัดด่านเฝ้าระวัง เพื่อป้องกันไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้ามาในพื้นที่อีก โดยที่พวกเราไม่ยินยอม”นายวุฒิชัย กล่าว
ทั้งนี้ โครงการวังหีบ ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีที่มีพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.2561 ตามข้อเสนอของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ โดยอนุมัติในหลักการให้ กรมชลประทานดำเนินโครงการวังหีบอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดนครศรีธรรมราช มีกำหนดแผนงานโครงการ 5 ปี (ปีงบประมาณ พ.ศ. 2562-2566) กรอบวงเงินงบประมาณโครงการทั้งสิ้น 2,377.644 ล้านบาท และ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ชี้แจงและทำความเข้าใจกับราษฎรในพื้นที่ และผู้ที่ได้รับผลกระทบให้ได้ข้อยุติก่อนดำเนินการตามโครงการ
อย่างไรก็ตามปัจจุบัน กรมชลประทาน ยังไม่ได้ทำการชี้แจงและสร้างความเข้าใจกับราษฎรในพื้นที่วังหีบ ที่ผ่านมาเคยมีการจัดเวทีแต่ไม่ได้มีการทำความเข้าใจตามมติดังกล่าว ต่อมา นายอำเภอทุ่งสงได้แต่งตั้งกรรมการสร้างความปรองดองขึ้นมา ซึ่งไม่ได้ดำเนินสอดคล้องกับมติครม.แต่อย่างใด แต่กลับพยายามเข้ามาผลักดันโครงการอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดการเผชิญหน้ากันในที่สุด